-
@ GaLoM ₿maxi
2025-04-15 09:02:53"รู้สึกเหมือนบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น — กราฟแสดงการเติบโตของประชากรในแต่ละปี, ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ, จำนวนเว็บไซต์, และเมกะไบต์ต่อดอลลาร์ ล้วนพุ่งทะยานขึ้นสู่เส้นโค้งที่ทะลุกรอบการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย นี่คือ "เอกฐาน" — จุดสิ้นสุดของทุกสิ่งที่เราคุ้นเคย และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่เราไม่มีวันเข้าใจเลยก็ได้" -Danny Hillis
ปฐมบทแห่งการเปลี่ยนแปลงของอำนาจ ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติไม่ใช่เส้นตรงที่ดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่เป็นลำดับของช่วงเวลาสงบนิ่งสลับกับช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ซึ่งมักเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ช่วงเวลาเหล่านี้มักจะถูกผลักดันโดยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ทำให้โครงสร้างของอำนาจที่มีอยู่ต้องปรับตัวหรือพังทลายลง
ขั้นที่สี่ของการจัดระเบียบสังคมมนุษย์ หัวข้อของหนังสือเล่มนี้ คือการปฏิวัติอำนาจรูปแบบใหม่ ที่กำลังเปิดทางให้ “ปัจเจกบุคคล” มีอิสรภาพมากขึ้น โดยแลกกับอำนาจที่รัฐชาติในศตวรรษที่ 20 เคยมี นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างผ่านนวัตกรรมที่เปลี่ยนแก่นกลางของ “ตรรกะแห่งความรุนแรง(logic of violence)” ไปอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไมโครโพรเซสเซอร์จะกัดเซาะและทำลายโครงสร้างของรัฐชาติ และในการเปลี่ยนผ่านนี้ จะก่อให้เกิดรูปแบบใหม่ของการจัดระเบียบทางสังคม ตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์ เราเคยผ่านระบบเศรษฐกิจพื้นฐานมาเพียงสามระยะ: 1. สังคมล่าสัตว์และหาของป่า 2. สังคมเกษตรกรรม 3. สังคมอุตสาหกรรม
แต่บัดนี้ กำลังมีสิ่งใหม่ปรากฏขึ้น — ระยะที่สี่ของการจัดระเบียบสังคม: สังคมข้อมูลสารสนเทศ (Information societies)
The Sovereign Individual เปิดบทแรกด้วยแนวคิดที่ชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ กำลังสร้างโลกใหม่ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และกำลังสั่นคลอนเสาหลักของอำนาจรัฐแบบเดิม ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การควบคุม และความชอบธรรม
โลกในยุคก่อนและหลังเทคโนโลยี ตลอดประวัติศาสตร์ มนุษย์เคยอยู่ภายใต้โครงสร้างอำนาจที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ยุคเกษตรกรรมทำให้เกิดระบบศักดินา ยุคอุตสาหกรรมทำให้เกิดรัฐชาติที่มีอำนาจรวมศูนย์ และการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีก็เคยปฏิวัติโลกมาแล้วหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น การใช้ดินปืนทำให้กษัตริย์สามารถสร้างกองทัพประจำการ แทนที่อำนาจของเหล่าขุนนางท้องถิ่น เทคโนโลยีสารสนเทศในยุคปัจจุบัน เช่น อินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และการเข้ารหัสข้อมูล กำลังทำให้ต้นทุนในการใช้ความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น และลดความสามารถของรัฐในการควบคุมข้อมูลและทรัพยากร นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจจากบนลงล่าง ไปสู่กระจายศูนย์และปัจเจกบุคคล
รัฐกับการผูกขาดอำนาจทางเศรษฐกิจ ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา รัฐมีอำนาจเหนือประชาชนได้ก็เพราะสามารถควบคุมเศรษฐกิจได้ผ่านกลไก เช่น การจัดเก็บภาษี การควบคุมเงินตรา และการผูกขาดการใช้ความรุนแรง การควบคุมเหล่านี้ทำให้รัฐสามารถรักษาอำนาจได้ แม้จะไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงสุดเสมอไป แต่เมื่อเทคโนโลยีใหม่เข้ามา ทำให้เงินทุนและข้อมูลสารสนเทศสามารถเคลื่อนที่ข้ามพรมแดนได้ง่าย รัฐจะไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ง่ายเช่นเดิมอีกต่อไป ความสามารถในการใช้กำลังบังคับก็ลดลงเพราะต้นทุนเพิ่มขึ้น และประชาชนสามารถหลบเลี่ยงหรือกระจายอำนาจออกจากรัฐได้มากขึ้น
รัฐเคยชินกับการปฏิบัติต่อผู้เสียภาษีในลักษณะเดียวกับที่ชาวนาเลี้ยงวัว — ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในทุ่งเพื่อจะรีดนม แต่ในไม่ช้า…วัวเหล่านั้นจะมีปีก
การเกิดขึ้นของปัจเจกผู้มีอธิปไตย ในโลกใหม่ที่เทคโนโลยีลดต้นทุนในการเป็นอิสระจากรัฐ บุคคลที่มีความรู้ ทักษะ และสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพจะกลายเป็น "Sovereign Individual" หรือ "ปัจเจกบุคคลผู้มีอำนาจอธิปไตย" ซึ่งมีคุณลักษณะเฉพาะคือ: 1. สามารถเคลื่อนย้ายทุนและตัวเองได้อย่างอิสระ 2. ทำธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ตซึ่งสามารถเข้ารหัสได้เพื่อลดการพึ่งพารัฐ 3. ควบคุมทรัพย์สินและรายได้ของตนเองโดยไม่ตกอยู่ใต้อำนาจรัฐ บุคคลกลุ่มนี้จะมีพลังในการต่อรองสูงขึ้น และจะเป็นกลุ่มที่กำหนดทิศทางของโลกอนาคต
ความท้าทายระหว่างเปลี่ยนผ่าน ผู้เขียนไม่ปฏิเสธว่าการเปลี่ยนผ่านจากยุคแห่งรัฐรวมศูนย์ไปสู่ยุคของปัจเจกผู้มีอธิปไตยจะเต็มไปด้วยความปั่นป่วน ในระยะสั้น เราอาจเห็น: * การล่มสลายของระบบสวัสดิการ * การว่างงานจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป * การเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมหรือสงครามภายในบางพื้นที่ แต่ทั้งหมดนี้คือผลข้างเคียงของการเปลี่ยนแปลงระดับรากฐาน ที่จะนำไปสู่ระบบที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนกว่าในระยะยาว
“จักรวาลมอบรางวัลให้เมื่อเรารู้เท่าทันกฎของมัน และลงโทษอย่างไร้ปรานีเมื่อเราหลงผิด หากเราเข้าใจธรรมชาติของจักรวาล แผนการต่างๆ จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และเราจะได้ลิ้มรสความสุขจากความสำเร็จนั้น แต่หากเราหลอกตัวเองว่าเพียงแค่กระโดดจากหน้าผาแล้วกระพือแขนก็จะบินได้ — จักรวาลจะไม่ลังเลที่จะลงโทษเรา... ด้วยความตาย.” — แจ็ค โคเฮน และ เอียน สจ๊วต
บทสรุป: เส้นทางใหม่ของอารยธรรม บทแรกของ The Sovereign Individual ไม่ได้เพียงแค่เตือนถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง แต่ยังเสนอแนวทางใหม่ของอารยธรรมที่อิงกับเสรีภาพของปัจเจก การกระจายอำนาจ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อปลดปล่อยมนุษย์จากการควบคุมของรัฐ
โลกในอนาคตจะเป็นโลกที่อำนาจไม่กระจุกอยู่ในมือของรัฐอีกต่อไป แต่จะอยู่ในมือของผู้ที่สามารถเข้าใจและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างอิสรภาพของตนเองได้อย่างแท้จริง
Siamstr