-
@ Ted🇱🇦🥩
2025-05-02 14:50:01ผมได้ติดตามการแบนการซื้อขายแบบ P2P ของ Binance ในประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว จากสถานการณ์ดังกล่าว เห็นได้อย่างชัดเจนว่ารัฐบาลกำลังเริ่มโจมตี Bitcoin ก่อนที่เราจะบรรลุถึง Bitcoin Standard เราจำเป็นต้องมีความเป็นส่วนตัวและอิสระทางการเงิน ซึ่งการซื้อขายแบบ P2P มีความสำคัญมากในการบรรลุเป้าหมายนี้
ความสำคัญของ No-KYC P2P
No-KYC P2P คือหัวใจสำคัญ - เราจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่เป็นทางรอด เราไม่สามารถเชื่อใจแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ได้เนื่องจากสาเหตุสองประการ: 1. ความเสี่ยงจากการถูกโกงโดยแพลตฟอร์มเอง (rug pull) 2. การถูกควบคุมจากภาครัฐ
แพลตฟอร์ม No-KYC P2P ที่แนะนำ
ผมอยากเสนอให้นักพัฒนาและชุมชน Bitcoin ไทย พิจารณาการศึกษาและพัฒนาแพลตฟอร์ม No-KYC P2P ปัจจุบันมีหลายทางเลือกที่มีอยู่แล้ว เช่น:
- Bisq
- RoboSats
- Mostro
- HodlHodl
- Lnp2pbot
เหตุผลที่แนะนำ Lnp2pbot
ผมขอแนะนำให้นำใช้หรือพัฒนาต่อจาก Lnp2pbot เนื่องจากข้อดีหลายประการ:
- ประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ที่ดีกว่า - เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ
- ใช้ Telegram เป็นพื้นฐาน - มีระบบ Escrow (บุคคลที่สามที่ถือเงินระหว่างการทำธุรกรรม) ซึ่งเพิ่มความมั่นใจและลดโอกาสการถูกโกง
- ลดการรวมศูนย์ - ไม่จำเป็นต้องพัฒนาแอปและส่งขึ้นสโตร์ ซึ่งจะทำให้นักพัฒนาต้องเปิดเผยตัวตนและกลายเป็นจุดอ่อนให้รัฐบาลควบคุม
- สร้างชุมชนได้ง่าย - ทุกคนสามารถสร้างกลุ่มหรือชุมชนเพื่อการซื้อขายได้ ทำให้ตลาดพัฒนากลุ่มที่น่าเชื่อถือตามกลไกตลาดเสรี
- ใช้งานจริงในหลายประเทศแล้ว - ปัจจุบันมีหลายประเทศที่นำ Lnp2pbot ไปใช้งานจริงแล้ว แสดงให้เห็นถึงความเสถียรและความเชื่อถือได้ของระบบ
บทบาทของนักพัฒนาไทย
Lnp2pbot อาจยังมีข้อจำกัดด้าน UX โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ท้องถิ่น นักพัฒนาไทยสามารถนำเอาซอฟต์แวร์มาพัฒนาต่อและดำเนินการเองได้ เนื่องจากเป็นโอเพนซอร์สอยู่แล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาให้ซอฟต์แวร์เป็นโอเพนซอร์สและให้ทุกคนสามารถนำไปใช้หรือทำให้มันทำงานได้ด้วยตนเอง วิธีการนี้จะหลีกเลี่ยงการมีจุดรวมศูนย์ที่รัฐบาลสามารถโจมตีได้