-
@ HereTong
2025-04-24 02:00:28ถ้า “นมปลอมเข้าโรงเรียน” กับเกม Lobby ระดับโลก ที่ซ่อน GMO ไว้ในแก้วของลูกหลานเรา
โอเค เรารู้จักคำว่า Precision Fermentation หรือ PF กันไปแล้ว กลับมาดูโลกปัจจุบันนี้กันครับ
ในวันที่ผู้ใหญ่ยังทะเลาะกันเรื่องราคาน้ำนมดิบ มีบางบริษัทที่กำลังยิ้มกว้าง เพราะแผนระยะยาวของเขา…คือการเปลี่ยนนมโรงเรียนจากของจริง ไปสู่นมปลอมที่ “จดสิทธิบัตรได้” และ “ควบคุมทั้ง supply chain”
เรื่องนี้อาจดูเหมือนนิยายไซไฟนะครับ แต่เฮียจะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังการ lobby ที่พยายามผลัก “นมจาก Precision Fermentation” และ “นม Plant-Based” เข้าสู่ระบบโรงเรียน โดยอ้างว่า “เพื่อสุขภาพ เพื่อโลก และเพื่อเด็กๆ” แต่จริงๆ แล้วมันคือ เกมเปลี่ยนอาหารเป็นทรัพย์สินทางปัญญาแบบเงียบๆ
ทำไม “โรงเรียน” ถึงเป็นเป้าหมายสำคัญ? คำตอบง่ายมาก เพราะว่ามันกลับเข้าสู่ loop เดิมกับตอนที่เขาพยายามยัด นมสด เข้าไปในชีวิตเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นละครับ หนังม้วนเดิม มีเพิ่มเติมคือความทันสมัย 1.โรงเรียนคือฐานข้อมูลประชากรที่แน่นอน = จำนวนเด็กแน่ชัด งบประมาณแน่ชัด 2.พฤติกรรมการกินของเด็ก “ฝังได้ง่าย” = ถ้าเด็กเติบโตมากับนม Plant-Based หรือ Milk 2.0 ตั้งแต่เล็ก พอเขาโตขึ้น “ร่างกายจะลืมรสนมวัวไปเลย” และไม่เคยรู้ว่าเคยมี real food ให้เลือก เหมือนที่โลกของ เจเนอเรชั่น internet มือถือ หรือแม้แต่สมัยนี้คือ สตรีมมิ่ง 3.เป็นจุดที่รัฐมีบทบาทโดยตรง = ง่ายต่อการ lobby policy เพราะแค่เปลี่ยนนโยบายระดับกระทรวง ก็เปลี่ยนทั้งประเทศได้
ใครอยู่เบื้องหลังการล็อบบี้นี้? 1. องค์กรระดับโลกที่ขับเคลื่อน Plant-Based School Meals อย่างเช่น - GFI (Good Food Institute) เป็นองค์กรที่มีเป้าหมายชัดว่า “เปลี่ยนโปรตีนของโลกจาก animal-based ให้เป็น cell-based และ fermentation-based” สนับสนุนงานวิจัย ออกนโยบายผลักดันเมนูโรงเรียน - ProVeg International ซึ่งมีโครงการชื่อ “School Plates” ปรับเมนูโรงเรียนให้เป็น plant-based - EAT Forum & WEF (World Economic Forum) ที่มีการสนับสนุนนโยบาย global dietary shift ซึ่งแนะนำให้ลดการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
- บริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน Milk 2.0
- Perfect Day ร่วมกับ Nestlé ที่พยายามผลักดันนม PF ให้เป็นนมทดแทนแห่งอนาคต
-
Oatly ผู้ผลิตนม plant-based และ lobby ให้ “รัฐบาลช่วยจัดซื้อในโรงเรียน” พร้อมกับแคมเปญประชาสัมพันธ์ว่านี่คือตัวเลือกที่ “รักษ์โลกและดีต่อสุขภาพ” และ NotCo / Danone ซึ่งอยู่ในตลาดประเภทเดียวกัน ก็อาจมีแนวโน้มเข้าสู่ตลาดโรงเรียนเช่นกัน
-
เช่นเดียวกับที่เคยเล่าเรื่องนมสดไว้ครับ เขาจะต้องมาพร้อมการวิจัยที่ออกแบบให้รองรับการเปลี่ยนนโยบาย ด้วยหลายงานวิจัยที่บอกว่า “นมวัวมีผลเสียต่อสุขภาพเด็ก” ถูกสนับสนุนโดยกลุ่มทุนที่อยู่ในวงการ plant-based หรือ biotech งานบางชิ้นลดความสำคัญของสารอาหารจาก animal-based ลง และ “ปั่นคะแนน” ของ Plant Milk หรือ PF Milk ให้ดูสูงกว่าความเป็นจริง
วิธีการ Lobby แบบแนบเนียนก็จะใช้กระบวนการประมาณนี้ครับ 1. แทรกผ่านโครงการ “นมโรงเรียนฟรี” หลายประเทศใช้เงินรัฐอุดหนุนนมโรงเรียน กลุ่ม Lobby เข้าไป “เสนอของถูกกว่า” และอ้างว่า “เหมาะกับเด็กแพ้นมวัว” ทำให้รัฐเริ่มพิจารณา Plant Milk หรือ PF Milk เป็นทางเลือก “ถูกกว่าและดูดี”
-
ล้างความคิดผ่านหลักสูตรสุขศึกษา เริ่มมีสื่อการสอนที่ใช้คำว่า “milk” แบบรวม Plant Milk เข้าไปด้วย ลดความต่างระหว่างนมวัวกับนมจากพืช และเริ่มพูดว่า “นมจากพืชดีกว่าต่อสิ่งแวดล้อม”
-
แจกทุนให้โรงเรียนที่ร่วมโครงการ มีการเสนอทุนวิจัย ทุนสนับสนุนเมนูโรงเรียน ถ้าโรงเรียนยอมทดลองใช้นม Plant-Based หรือ PF Milk สร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นโรงเรียน “รักโลก รักสุขภาพ”
-
ใช้พลังอินฟูฯและดารา ดาราดังๆ ถูกใช้เป็นหน้าโครงการ (ในตปท.) เช่นโพสต์ภาพเด็กๆ กิน “นมไม่มีวัว” พร้อมคำบรรยายว่า “นี่คืออนาคตของการกินอย่างมีจริยธรรม” อะไรประมาณนี้ครับ
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นก็คือ เด็กๆ เสียโอกาสในการได้รับโภชนาการจาก real food โดยเฉพาะ B12, วิตามิน A, DHA, โคลีน, เคซีนจากธรรมชาติ ซึ่งนมเทียมต้อง “แต่งเติม” เข้ามาทั้งสิ้น รวมถึง เด็กโตมากับอาหารปลอม โดยไม่รู้ว่าเคยมีของจริงให้เลือก สุดท้ายจะกลายเป็น “ผู้ใหญ่ที่ต้องพึ่งบริษัท” เพื่อมีโปรตีนกินในชีวิตประจำวัน และท้ายสุด รัฐกลายเป็นผู้สนับสนุนสิทธิบัตรเอกชน เพราะเมื่อ Milk 2.0 เข้าสู่ระบบโรงเรียน มันจะกลายเป็น “ค่าใช้จ่ายประจำ” ที่รัฐบาลต้องจ่ายให้บริษัทตลอดไป ซึ่งตรงนี้ก็จะวนกลับมาที่พวกเราที่อยู่ภายใต้ระบบ fiat
ดังนั้นมันก็เลยสรุปได้ว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องอาหาร แต่คือการเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจ Milk 2.0 เข้าโรงเรียน ไม่ใช่เพราะมันดีกว่า แต่เพราะมัน “ล็อกห่วงโซ่คุณค่าไว้ในมือคนส่วนน้อย” และสร้างประชากรรุ่นใหม่ที่ไม่รู้จักอาหารจริงจากธรรมชาติ
หากเด็กวันนี้กินของปลอมจนชิน วันหนึ่งเขาอาจยอม “จ่ายเงินเช่าโปรตีน (subscribe) ” ไปตลอดชีวิต โดยไม่เคยรู้เลยว่า… วัวเคยให้นมได้โดยไม่ต้องใช้เทคโนโลยีใดๆ เลย
#pirateketo #กูต้องรู้มั๊ย #ม้วนหางสิลูก #siamstr