-

@ maiakee
2025-02-24 14:40:52
https://image.nostr.build/0407b3a0956ca169abba1449b4eb3c818b31166bd0367120bf5ba890f61b9cdc.jpg
🌌Quantum Coherence, สถานะซ้อนทับ, ขันธ์ 5 และวิญญาณฐิติ 4
1. Quantum Coherence คืออะไร และเกี่ยวข้องกับสถานะซ้อนทับ (Superposition) อย่างไร?
ในกลศาสตร์ควอนตัม Quantum Coherence คือปรากฏการณ์ที่อนุภาคควอนตัมสามารถคงสถานะซ้อนทับ (Superposition) ได้โดยที่ยังคงความสอดคล้องของคลื่นพลังงานไว้ จนกว่าจะเกิด Quantum Decoherence ซึ่งทำให้สถานะนั้นถล่มลง (wave function collapse) ไปเป็นสถานะใดสถานะหนึ่งที่ถูกสังเกต
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการทดลอง Double-Slit Experiment ซึ่งพบว่า อนุภาค เช่น อิเล็กตรอน สามารถอยู่ในหลายตำแหน่งได้พร้อมกัน ตราบเท่าที่ยังไม่มีการสังเกต แต่เมื่อมีการวัดหรือสังเกตการณ์ Superposition จะหายไป และอนุภาคจะมีตำแหน่งแน่นอน
เชื่อมโยงกับพุทธพจน์:
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า “สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา” (สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนที่แท้จริง)
นี่สะท้อนถึงแนวคิดควอนตัมที่ว่า สรรพสิ่งไม่ได้มีสถานะที่ตายตัว จนกว่าจะถูกสังเกตหรือรับรู้ คล้ายกับที่พระพุทธองค์กล่าวว่า โลกที่เรารับรู้ล้วนเป็นมายา ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
2. Quantum Coherence กับขันธ์ 5 และวิญญาณฐิติ 4
ขันธ์ 5 (องค์ประกอบของชีวิต) และ Quantum Coherence
ขันธ์ 5 ได้แก่:
1. รูป (Rūpa) – กาย วัตถุ หรือพลังงานที่สัมผัสได้
2. เวทนา (Vedanā) – ความรู้สึกสุข ทุกข์ หรือเฉยๆ
3. สัญญา (Saññā) – ความจำ การกำหนดรู้
4. สังขาร (Saṅkhāra) – การปรุงแต่งทางจิต
5. วิญญาณ (Viññāṇa) – การรับรู้ หรือจิตที่เกิดจากอายตนะสัมผัสกับโลกภายนอก
Quantum Coherence เชื่อมโยงกับขันธ์ 5 อย่างไร?
• ขันธ์ 5 ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่แยกจากกัน แต่เป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงกันตลอดเวลา คล้ายกับ Quantum Coherence ซึ่งเป็นภาวะที่ควอนตัมหลายสถานะยังคงเกี่ยวพันกันอยู่จนกว่าจะเกิดการวัด (Decoherence)
• เมื่อขันธ์ 5 ทำงานร่วมกัน โดยไม่มีสิ่งเร้าภายนอกกระทบ สมองอาจอยู่ในภาวะสงบ (คล้ายกับ Coherence ที่ยังไม่ถูกทำลาย)
• แต่เมื่อจิตถูกกระทบด้วยอารมณ์หรือกิเลส เป็นเสมือนการเกิด Decoherence ที่ทำให้ภาวะสงบถูกทำลาย และเกิดปฏิกิริยาทางจิตขึ้นมาแทน
พุทธพจน์:
“ตณฺหา ปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทาน ปจฺจยา ภโว”
(เพราะตัณหาเป็นปัจจัย ย่อมเกิดอุปาทาน, เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ย่อมเกิดภพ)
สะท้อนว่า Quantum Decoherence เปรียบเสมือนการยึดติดกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด (อุปาทาน) ซึ่งทำให้การรับรู้ (วิญญาณ) ถูกกำหนดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งแทนที่จะอยู่ในภาวะสมดุลของ Quantum Coherence
วิญญาณฐิติ 4 กับ Quantum Coherence
วิญญาณฐิติ 4 คือที่ตั้งของวิญญาณ ซึ่งได้แก่
1. รูป – การรับรู้ที่ตั้งอยู่ในกาย วัตถุ หรือพลังงานที่สัมผัสได้
2. เวทนา – การรับรู้ที่ตั้งอยู่ในความรู้สึกสุข ทุกข์ หรือเฉยๆ
3. สัญญา – การรับรู้ที่ตั้งอยู่ในความจำ และการกำหนดหมาย
4. สังขาร – การรับรู้ที่ตั้งอยู่ในกระบวนการปรุงแต่งของจิต
กลไกของวิญญาณฐิติ 4:
• วิญญาณไม่สามารถรับรู้ขันธ์ทั้ง 4 ได้พร้อมกัน แต่เกิดดับสลับกันไปอย่างรวดเร็ว
• ขณะที่จิตรับรู้รูปขันธ์ มันไม่ได้รับรู้เวทนา สัญญา หรือสังขารในขณะเดียวกัน
• การเปลี่ยนผ่านของการรับรู้แต่ละขันธ์นั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับการเปลี่ยนสถานะของ Quantum Coherence ที่ยังไม่ถูกทำลาย
เชื่อมโยงกับ Quantum Coherence และ Decoherence:
• ในภาวะสมาธิหรือจิตที่ตั้งมั่น วิญญาณสามารถรับรู้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ถูกรบกวน คล้ายกับภาวะ Quantum Coherence ที่ยังไม่ได้ถูกทำลาย
• แต่เมื่อจิตถูกกระทบด้วยอารมณ์ โลภ โกรธ หลง การรับรู้ของขันธ์ 5 จะถูกรบกวน ทำให้วิญญาณฐิติเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เหมือนการเกิด Decoherence ที่ทำให้ Superposition พังทลาย และนำไปสู่ความทุกข์และความยึดติด
พุทธพจน์:
“โย จ วทติ รูปํ รูปํ, วิญญาณํ วิญญาณํ, สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา”
(บุคคลใดกล่าวว่ารูปคือรูป วิญญาณคือวิญญาณ สรรพสิ่งล้วนเป็นอนัตตา)
แสดงว่า วิญญาณฐิติ 4 เป็นเพียงกระบวนการของการรับรู้ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีตัวตนที่แท้จริง เหมือนกับสถานะควอนตัมที่ไม่มีสถานะตายตัวจนกว่าจะถูกสังเกต
3. Quantum Decoherence และการเวียนว่ายตายเกิด (สังสารวัฏ)
*“จิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเฐ สุคติปาฏิกงฺขา, จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ทุคติปาฏิกงฺขา”
(เมื่อจิตบริสุทธิ์ ย่อมนำไปสู่สุคติ, เมื่อจิตเศร้าหมอง ย่อมนำไปสู่ทุคติ)
Quantum Decoherence เปรียบได้กับการเกิดและดับของภพชาติ
• ก่อนที่จะเกิดการสังเกต อนุภาคควอนตัมสามารถมีสถานะได้หลากหลาย
• เช่นเดียวกัน ก่อนที่กรรมในอดีตจะส่งผล จิตยังมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงและหลุดพ้นจากสังสารวัฏ
• แต่เมื่อมีการสังเกต Quantum Decoherence ทำให้อนุภาคเลือกสถานะเดียว (เหมือนกับที่กรรมกำหนดวิถีของภพชาติใหม่)
ดังนั้น สังสารวัฏ (การเวียนว่ายตายเกิด) เป็นเหมือนผลลัพธ์ของ Quantum Decoherence ที่เกิดขึ้นกับจิต เมื่อจิตมีการยึดมั่นในกิเลสหรือรูปขันธ์ มันจะสร้างภพใหม่ในทันที
4. สรุป
วิญญาณฐิติ 4 สะท้อนว่าการรับรู้ของจิตเกิดดับเป็นขณะๆ คล้ายกับสถานะซ้อนทับของควอนตัม ซึ่งเปลี่ยนไปตามเงื่อนไขของกิเลสและการสังเกต หรืออาจกล่าวได้ว่า Decoherence คือสาเหตุที่นำไปสู่การเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
• Quantum Coherence เปรียบเสมือนจิตที่ยังไม่ถูกปรุงแต่ง และยังอยู่ในภาวะสงบ
• Quantum Decoherence เปรียบได้กับการปรุงแต่งของขันธ์ 5 และการเวียนว่ายตายเกิดของจิต
• วิญญาณฐิติ 4 อธิบายถึงระดับการรับรู้ที่สอดคล้องกับภาวะควอนตัม ตั้งแต่รูปธรรมไปจนถึงพลังงานบริสุทธิ์
• การตัดอุปาทาน (Decoherence) ทำให้เกิดภพชาติใหม่ เช่นเดียวกับที่การวัดทำให้ Superposition หายไป
• นิพพานอาจเป็นสภาวะที่ไม่มี Quantum Decoherence อีกต่อไป หรือเป็นการปลดปล่อยจิตออกจากภาวะแห่งความยึดติดโดยสิ้นเชิง
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า หลักพุทธศาสนาอธิบายถึงโครงสร้างของจิตที่มีลักษณะคล้ายกับกระบวนการในกลศาสตร์ควอนตัมอย่างน่าทึ่ง
#Siamstr #พุทธวจน #ปรัชญาชีวิต #quantum #nostr #ธรรมะ #พุทธศาสนา #ควอนตัม #ปรัชญา