-
@ HereTong
2025-05-22 01:30:37ถ้าพูดถึง "เกาหลีใต้" หลายคนอาจนึกถึงซีรีส์ น้ำจิ้มเผ็ด หรือไอดอลหน้าผ่อง ๆ แต่เบื้องหลังวัฒนธรรมที่ลื่นไหลไปทั่วโลกนี้ ยังมีอาณาจักรธุรกิจขนาดมหึมาที่เป็นเหมือนเครื่องยนต์หลักผลักดันทั้งอาหาร เพลง หนัง และนวัตกรรมระดับโลก หนึ่งในนั้นคือ CJ Group ที่เริ่มต้นจากบริษัทน้ำตาลเล็ก ๆ ในปี 1953 แต่เติบโตจนกลายเป็นหนึ่งใน conglomerate หรือ "กลุ่มธุรกิจผูกเครือ" ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของแดนโสม
คำว่า CJ ย่อมาจาก CheilJedang (แปลว่า “หมายเลขหนึ่งแห่งโลก” ในภาษาจีน-เกาหลี) ก่อตั้งโดย อี บยองชอล ผู้ก่อตั้ง Samsung Group ในช่วงเวลานั้น เกาหลีใต้กำลังฟื้นตัวจากสงครามเกาหลี และรัฐบาลส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ เดิมเป็นหน่วยธุรกิจอาหารของกลุ่ม Samsung ในปี 1993 Cheil Jedang แยกตัวออกจาก Samsung Group และกลายเป็นบริษัทอิสระภายใต้การบริหารของ อี แจฮยอน หลานชายของอี บยองชอล แล้วขยายขอบเขตธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง จากความเชี่ยวชาญใน "การหมัก" แบบดั้งเดิม พวกเขากลับกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลกในวงการ เทคโนโลยีชีวภาพ การผลิตอาหารไปจนถึงธุรกิจ บันเทิงระดับฮอลลีวูด และ โลจิสติกส์ข้ามทวีป
พูดง่าย ๆ ว่า CJ ไม่ได้แค่ส่งออกกิมจิหรือบิบิมบับ แต่พวกเขากำลังวางรากฐานของ "อนาคตแห่งอาหาร" และ "ความบันเทิงแบบไร้พรมแดน" ในเวลาเดียวกัน จนใครหลายคนถึงกับบอกว่า ถ้าอยากเข้าใจเกาหลีใต้ ก็ต้องเริ่มจากเข้าใจ CJ Group เสียก่อน
แล้วในเครือข่ายของ CJ Group มีธุรกิจอะไรบ้างที่น่าสนใจ และแบรนด์ไหนที่เราคุ้นเคยแบบไม่รู้ตัว ไปดูกันเลย
- ธุรกิจอาหารและบริการอาหาร (Food & Food Services)
- CJ CheilJedang บริษัทอาหารชั้นนำของเกาหลีใต้ มีผลิตภัณฑ์เด่น ได้แก่ Bibigo แบรนด์อาหารเกาหลีพร้อมรับประทาน เช่น เกี๊ยว ซอส และกิมจิ Hetbahn ข้าวสวยพร้อมรับประทานที่ได้รับความนิยมในเกาหลี
-
CJ Foodville ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรี่ เช่น: Tous Les Jours ร้านเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศส VIPS ร้านสเต็กและสลัดบุฟเฟ่ต์
-
ธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพ (Bio) ความเชี่ยวชาญนี้เป็นรากฐานสำคัญในการขยายธุรกิจด้านเทคโนโลยีชีวภาพของ CJ เลยครับ
- CJ BIO ผู้นำด้านการผลิตกรดอะมิโนและผลิตภัณฑ์ชีวภาพผ่านเทคโนโลยีการหมักจุลินทรีย์ เช่น Lysine, Tryptophan, Valine กรดอะมิโนที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอาหารเสริม
-
CJ Bioscience มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาไมโครไบโอมเพื่อสุขภาพ
-
ธุรกิจโลจิสติกส์และค้าปลีก (Logistics & Retail)
- CJ Logistics ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร ทั้งการขนส่งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ รวมถึงบริการคลังสินค้าและการจัดการซัพพลายเชน
-
CJ Olive Young: ร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของเกาหลี มีผลิตภัณฑ์ยอดนิยม เช่น Anua PDRN Set ชุดบำรุงผิวที่ได้รับความนิยม MILKTOUCH ผลิตภัณฑ์เมคอัพที่ได้รับความนิยม
-
ธุรกิจบันเทิงและสื่อ (Entertainment & Media) อันนี้ยิ่งใหญ่ระดับโลกมากๆ หลายคนคงจำได้กับ ภาพยนตร์เอเชียแรกกับรางวัลออสการ์ Parasite
- CJ ENM บริษัทผลิตและจัดจำหน่ายเนื้อหาบันเทิงที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีผลงานเด่น ได้แก่ Crash Landing on You ซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง Parasite ภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์
- CJ CGV เครือโรงภาพยนตร์มัลติเพล็กซ์ที่มีสาขาทั่วโลก
CJ Group ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เช่น การเข้าซื้อกิจการ Schwan's Company ในสหรัฐอเมริกา และการเปิดสาขา CGV ในหลายประเทศ นอกจากนี้ CJ ยังมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่วัฒนธรรมเกาหลีสู่ระดับโลกผ่าน KCON และการผลิตเนื้อหาบันเทิงที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศด้วยครับ
จะเห็นได้ว่า เครือข่ายของ CJ นั้นยิ่งใหญ่มากๆเลย ทีนี้มีเรื่องน่าสนใจตรงนี้ครับ
ในช่วงปี 2013–2016 CJ Group โดยเฉพาะฝ่ายสื่อบันเทิงอย่าง CJ ENM ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากรัฐบาลของประธานาธิบดี พัค กึนฮเย เหตุการณ์สำคัญคือการที่ อี มีคยอง (Miky Lee) รองประธาน CJ และผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจบันเทิงระดับโลก ถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง รายงานระบุว่า ทำเนียบประธานาธิบดีไม่พอใจเนื้อหาสื่อบางรายการของ CJ ที่มีลักษณะเสียดสีหรือวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เช่น รายการ SNL Korea ที่ล้อเลียนพัค กึนฮเย ผ่านตัวละคร Teletubbies
ภายใต้แรงกดดันนี้ CJ มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาสื่อ โดยลดการนำเสนอเนื้อหาที่อาจขัดแย้งกับรัฐบาล และหันไปผลิตภาพยนตร์ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Ode to My Father (2014) ที่สะท้อนความรักชาติและการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคของพัค ชุงฮี บิดาของพัค กึนฮเย ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและถูกมองว่าเป็น "ภาพยนตร์เพื่อสุขภาพ" ที่ส่งเสริมความภาคภูมิใจในชาติ แน่นอนว่าแค้นฝังหุ่นมันยังไม่หายไปไหนครับ
เมื่อเกิดการเปิดโปง "บัญชีดำ" (Blacklist) ของรัฐบาลพัค กึนฮเย ที่มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพของศิลปินและผู้ผลิตสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงในสังคมเกาหลี. ในปี 2016 ซน กยองชิก ประธาน CJ ได้ให้การต่อศาลว่า มีแรงกดดันจากรัฐบาลให้ อี มีคยอง หลีกเลี่ยงการมีบทบาทในบริษัท เหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดโปงคดีทุจริตของพัค กึนฮเย ซึ่งนำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่และการถอดถอนประธานาธิบดีในปี 2017
หลังจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง CJ Group ได้กลับมามีบทบาทอย่างเต็มที่ในวงการบันเทิงอีกครั้ง อี มีคยอง กลับมาดำรงตำแหน่งและมีบทบาทสำคัญในการผลักดันภาพยนตร์เรื่อง Parasite (2019) ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์และยกระดับภาพลักษณ์ของ CJ ในระดับโลก ซึ่งถ้าใครได้ดูหนังเรื่องนั้นแล้วรู้เรื่องราวเบื้องหลังนี้จะเข้าใจเนื้อหาได้อย่างลึกซึ้งขึ้นไปอีกเลยครับ การนำเสนอเรื่องราวนี้ถือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สังคมและระบบทุนนิยมอย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากแนวทางที่ CJ เคยถูกกดดันให้ปฏิบัติตามในยุคของพัค กึนฮเย อย่างสิ้นเชิง
อย่าเพิ่งไปสะใจกับเนื้อหา ให้มองว่า "เขาทำอะไรได้บ้าง" นี่คือประเด็นสำคัญครับ #pirateketo #กูต้องรู้มั๊ย #ม้วนหางสิลูก #siamstr