-
@ Jakk Goodday
2023-08-09 17:22:10
สองคนนี้รู้จักกันเพราะคุยเรื่องบิตคอยน์กันแน่ๆ เลย?
ถ้าผมบอกว่าเราคุ้นเคยกันมากขึ้นเพราะ "เกมส์" คุณจะเชื่อไหม?
ย้อนกลับไปในช่วงเปิดตัวหนังสือ The Bitcoin Standard ฉบับแปลไทยของ อ.พิริยะ นั่นคือเหตุผลแรกที่ผม ซึ่งเป็นใครจากไหนก็ไม่รู้ ทักไปหา อ.ตั๊ม ครั้งแรก..
"ผมเอาเล่มนึงคับ"
ก็คงเป็นการ Approach แบบที่ใครเค้าก็ทำกัน พวกคุณก็คงพอเดาได้ แต่คุณคงเคยเห็นมาแล้ว บัญชีโซเชียลมีเดียแต่ละแอปของเขาน่ะ การแจ้งเตือนมัน 999+ ตลอด ผมไม่คิดว่าจะมีใครโชคดีได้ป๊ะได้คุยตั้งแต่ทักเขาครั้งแรก
ใช่ครับ.. ผมรอครึ่งปีเพื่อให้ถึงจังหวะโอกาสที่เขาต้องตอบผมแน่ๆ ก็ตอนขายหนังสือนี่แหละ..
ไม่มีอะไรมากมาย ผมมีแนะนำตัวเล็กน้อยว่าผมเป็นแอดมินเพจ CryptoNize (ที่ตอนนี้เลิกทำไปแล้วล่ะ) ผมชื่นชอบบิตคอยน์ และติดตามมานาน บลา บลา บลา
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมต้องใช้ความกล้าอย่างมาก และต้องทำทันทีคือการ "Declare" บอกกับเขาตรงๆ ว่าผมอยากร่วมทำบางอย่างเพื่อตอบแทนสิ่งที่เขาทำทั้งหมดด้วยการช่วยทุกอย่างเท่าที่เขาจะอนุญาต โดยเฉพาะการสร้าง Bitcoin Network ในไทย ก็ถ้าไม่ใช่โอกาสนี้ก็ไม่รู้จะทำตอนไหนละ
เอ่อ.. ผมคิดว่าตอนนั้น อ.ตั๊ม ก็คงจะงงๆ แบ่งรับแบ่งสู้ อะไรของมึงวะหมอนี่..
จริง ๆ มันเริ่มมาจากการที่ผมสังเกตมานานแล้ว และคิดเรื่องนี้ในหัวมาตลอด ผมเองก็เป็นคนนึงที่อยากทำให้ในไทยมีฐานความรู้เกี่ยวกับบิตคอยน์ภาษาไทยมาตั้งแต่ต้น
ผมหลงเข้าดงชิตคอยน์ในก้าวแรกสู่ตลาดคริปโต เดชะบุญที่ผมอยู่กับการศึกษาวงการลงทุนมานาน หลายสินทรัพย์ที่ผมรู้จักดี ผมใช้เวลาไม่นานนักในการแยกแยะได้ว่าอะไรคือของจริง ของปลอม
หลังจากนั้นผมก็ทำเพจบิตคอยน์งูๆ ปลาๆ ในแบบของตัวเองไป แน่นอนว่าในไทยเมื่อคุณตกลงปลงใจจะศึกษาบิตคอยน์ ชื่อแรกที่คุณจะนึกถึงแน่ๆ คือ อ.พิริยะ เขาเป็นไอดอลของผมเหมือนกับพวกคุณทุกคนนั่นแหละครับ
แล้วไอดอลกลายมาเป็นเพื่อนเราได้ยังไง?
มีช่วงหนึ่งที่ผมสังเกตุเห็นได้ชัดว่า อ.ตั๊ม เริ่มมีอาการ Burn-out ผมไม่รู้ว่าใครเห็นแบบผมไหมนะ แต่ผมแน่ใจว่าใช่แน่ๆ ผมกลับไปคิดว่าผมจะช่วยอะไรเค้าได้บ้าง?
ถ้าเราอยากจะผลักดันวงการบิตคอยน์ในไทย แทนที่จะแยกกันทำไปแบบนี้ ทำไมเราไม่ไปขอจอยช่วย อ. ทำ เสริมพลังให้แกไปเลยนะ? ผมตัวเล็กมากในคอมมูนิตี้ไทยตอนนั้น จะว่าโนเนมเลยก็ได้ แต่คิดอะไรเกินตัวซะเหลือเกิน
But how?
ผมรื้อทุกอย่างที่เป็น อ.พิริยะ เท่าที่จะหาแหล่งข้อมูลได้ในเมืองไทย ผมเป็นคนนึงที่ดูทุกคลิป ทั้งบิตคอยน์ สอนเทรด ส่วนตัว เฟซบุ๊ก หนังสือที่อ่าน วิธีที่พูด โพสต์ที่เคยผ่านตา บทความที่เคยเขียน ฯลฯ เรียกว่าผมวิจัยคนๆ นึงเลยก็ว่าได้
ผมศึกษานิสัยใจคอของเขา ความชอบ เป้าหมาย ต่างๆ นานา ไม่ใช่เพื่อจะ Take Advantage จากสิ่งนี้ แต่ผมต้องการเป็นเพื่อนกับเขาจริงๆ ผมเป็นคนแบบนี้ ผมชอบทำงานกับเพื่อน กับคนที่รู้มือรู้ใจกัน และในสถานการณ์แบบนี้ มันควรเป็นผมที่ต้องเข้าใจ อ. ให้ได้ก่อน
ถ้าคุณคิดว่าเราคงถกเรื่องบิตคอยน์ หรืองานเทรดกัน คุณคิดผิดถนัด.. ผมคุยเรื่องสัพเพเหระที่ไม่เกี่ยวกับบิตคอยน์กันแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งวันนี้ก็ยังเป็นแบบนี้ เรื่องที่เราคุยกันถูกคอมากที่สุดคือ.. "เรื่องเกมส์"
ให้ตายเถอะ เรามันเด็กที่โตมาในยุค 90' เหมือนกัน มีอะไรจะคุยได้ยาวเท่าเรื่องในอดีตอีก เราคุยถึงสมัยเรียน สมัยเด็ก สมัย Ragnarok เราเล่นเกมบน Nintendo switch ด้วยกัน
เอ่อ.. ผมหมายถึง… เล่นของใครของมันแล้วมาคุยกันอะนะ
พวกคุณรู้ไหมว่าเราชอบเกมกันขนาดนี้ แต่เอาเข้าจริงเราได้เล่นกันก่อนนอนวันละไม่เกินครึ่ง ชม. แค่นั้นเอง เอาแค่พอให้หายอยาก เรามีเรื่องต้องทำกันเยอะมากๆ ในตอนนั้น หากใครยังจำได้ จะมีช่วงนึงที่ อ. พูดถึงเกม Triangle Strategy บ่อยๆ นั่นแหละ เล่นอยู่กับผม
แต่อันนี้ยอมนะ เกม RPG นี่ผมสู้แกไม่ได้จริงๆ
จนกระทั่งเราได้เจอกันครั้งแรกที่งานมีตอัพบิตคอยน์ที่โรงเบียร์พี่ชิต (น่าจะมีคนอ่านสักคนที่ได้ไป) เอาจริงๆ นะ ผมไม่ตื่นเต้นเลย เป็น อ. มากกว่าที่ไม่รู้จะทำตัวยังไง ฮ่าๆๆ
ก็ผมมันดิบ ผมเป็นคนเซอร์ๆ ขัดกับลุคของ อ. คนละขั้ว แต่คนต่างขั้วนี่แหละพาพวกคุณให้ได้มาอ่านบทความนี้บน Nostr ตอนนี้ เรามาไกลจากตรงนั้นมาก เรามีคอมมูที่โตขึ้นอย่างออแกนิก มีสมาชิกน่ารักๆ ในคอมมูนิตี้หลายคน เรามี Right Shift และพาร์ทเนอร์อีกมากมายที่กำลังผุดกันขึ้นมา
ผมที่คิดว่าจะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ อ. ในตอนแรก ตอนนี้ผมทำให้เขายุ่งยิ่งกว่าเดิม แต่ผมก็สัมผัสได้นะ ผมเชื่อลึกๆ ว่าตอนนี้ อ. คงมีความสุข อ.ไม่ได้สู้ตัวคนเดียว วันนี้ อ. มีพวกเราทุกคน มันจับต้องได้ ใช้แค่หัวใจก็สัมผัสมันได้ละ
สิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคน คือผมได้สวมกอด อ. (แบบลูกผู้ชาย) หลังการจัดงาน BTC2023 ไม่มีใครได้เห็นภาพนี้ เพราะมันอยู่ในความทรงจำของผมคนเดียว…
เราเคยวาดรูปล้อเลียนให้นาย.. ตอนนี้ยังอยู่ดีไหม?
ผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า.. เราคงไม่สามารถมีเพื่อนได้จากการนั่งอยู่เฉยๆ หรอกครับ มันมีคุณค่าบางอย่างที่จะคอยดึงดูดคนเราเข้าหากัน แต่มันต้องมีสักคนที่เริ่มก่อน และ พิริยะ คือชายคนนั้นที่ได้มอบคุณค่าบางอย่างให้กับพวกเรา พวกเรารู้กันดีว่ามันคืออะไร
สิ่งนี้แหละเรียกว่า Value for Value เมื่อเราให้มากพอ วันนึงเราจะได้รับบางอย่างเป็นการตอบแทน..