-
@ HereTong
2025-04-18 01:41:22เวทีอุตสาหกรรมตัดต่อพันธุกรรมระดับโลก ที่กำลังจะเปลี่ยนอาหารทั้งระบบให้เป็นของบริษัทต่างๆ "Precision Fermentation" ซึ่งฟังดูเหมือนคล้ายการทำโยเกิร์ตหรือเบียร์ใช่มะ แต่ความจริงมันคือ การออกแบบชีวิตใหม่เพื่อขายเป็นอาหารครับ
เรามาเรียกชื่อตอนนี้ให้เท่ๆว่า Precision Fermentation จากถังหมัก สู่กับดักพันธุกรรม
Precision Fermentation (PF) ต่อจากนี้ไปอยากให้จำคำนี้ไว้ให้ดีๆ อ่านข่าวอาหารอะไรคอยดูว่ามีคำนี้ไหม มันคือการใช้ จุลินทรีย์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม (GMO yeast, bacteria, fungi) เพื่อผลิต “สารอาหาร” เช่น โปรตีนจากนม ไข่ขาว ไขมันสัตว์ เจลาติน วิตามิน โดยไม่ต้องมีสัตว์จริงอยู่ในระบบเลยสัก ใช้ตัวจุดขายว่า “อาหารแห่งอนาคตที่ปลอดสัตว์ เป็นมิตรกับโลก”
แต่เบื้องหลังมันคือ... ระบบปิดที่บริษัทเดียวควบคุมตั้งแต่สายพันธุ์จุลินทรีย์ เครื่องจักร ไปจนถึงสิทธิบัตรของอาหารทุกชิ้น
เป็นการหมักชีวิตให้กลายเป็นกรรมสิทธิ์ ในระบบ PF นักวิจัยจะเลือก DNA จากสัตว์ เช่น เคซีน (โปรตีนนมวัว) อัลบูมิน (โปรตีนไข่) ฮีม (กลิ่นเลือดในเนื้อวัว) แล้วเอาไปใส่ไว้ในยีสต์หรือจุลินทรีย์ เพื่อให้มัน "หมัก" ผลิตสารเหล่านี้ออกมาในถังขนาดใหญ่
ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมครับ? แต่ DNA เหล่านั้นจะถูกจดสิทธิบัตรทันที และจุลินทรีย์เหล่านั้นก็จะถูกควบคุมโดยบริษัทไม่กี่รายเท่านั้น หมายความว่า โปรตีนจากไข่ นม หรือเนื้อ จะกลายเป็น “กรรมสิทธิ์ของบริษัท” ไม่ใช่ของธรรมชาติอีกต่อไป
บริษัทไหนบ้างที่เล่นเกมนี้ เรามาลองดูตัวอย่างกันครับ Perfect Day – ผลิตโปรตีนนมด้วยยีสต์ GMO The EVERY Company – ไข่ขาวจากเชื้อรา Clara Foods – โปรตีนจากไข่ด้วย PF Motif FoodWorks – กลิ่นเนื้อและไขมันจาก PF Impossible Foods – ฮีม (heme) จากถั่วเหลือง GMO ที่หมักด้วยยีสต์ดัดแปลง และที่สำคัญเหมือนเดิมครับเบื้องหลังคือเงินทุนจาก SoftBank, Bill Gates, Google Ventures และบริษัทอาหารระดับโลก เช่น Nestlé, Tyson Foods, Unilever
คำถามก็คือมันคืออาหารหรือเคมี เพราะสิ่งที่ได้จาก PF มักมีสถานะก้ำกึ่งระหว่างอาหารกับสารเคมี นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยน้อยมากเรื่องผลกระทบต่อร่างกายระยะยาว ไม่ผ่านการพิสูจน์ในระบบย่อยอาหารมนุษย์อย่างชัดเจน หลายชนิดไม่บอกบนฉลากว่าได้จาก GMO fermentation หรือไม่ และบางบริษัทจงใจเรียกของตัวเองว่า “non-animal” เพื่อเลี่ยงการเปิดเผยว่าเป็น GMO
แต่สิ่งที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นแน่ๆคือ 1.การครอบครองพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ทุกยีสต์หรือจุลินทรีย์ในระบบ PF ถูก “จดสิทธิบัตร” ทั้งหมด ใครเลียนแบบ โดนฟ้อง ใครผลิตเองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดนปิดกิจการ 2.การขับไล่เกษตรกรออกจากระบบอาหาร ไม่ต้องรีดนม ไม่ต้องเก็บไข่ ไม่ต้องเลี้ยงสัตว์ บริษัทไม่ต้องพึ่งเกษตรกรเลย แล้วใครจะอยู่รอดในระบบนี้? 3.การกำหนดราคาโดยผูกขาด PF ทำให้บริษัทมีอำนาจควบคุมแหล่งโปรตีน ถ้าบริษัทไม่ขาย หรือขายแพง ก็ไม่มีใครมีอำนาจต่อรอง 4.การขาดเสรีภาพในการเลือกอาหาร ถ้าของจริงถูกลดบทบาท และของเทียมถูกยัดใส่ผลิตภัณฑ์ทั่วไปแบบไม่ระบุฉลาก คนจะถูกหลอกว่า "กินอาหาร" ทั้งที่จริงๆ กำลังกินผลิตภัณฑ์ชีววิศวกรรมที่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าปลอดภัยจริงไหม
หากอาหารของโลกต้องผ่านถังหมัก ผ่านโรงงาน ผ่านระบบสิทธิบัตร และต้องขอใบอนุญาตจากบริษัทยักษ์ทุกครั้งที่ผลิต โลกเราจะเหลือ “อาหารจากธรรมชาติ” แค่ในนิทานพื้นบ้าน อาหารที่ปู่ย่าตายายเคยปลูก เคยเลี้ยง เคยกิน อาจกลายเป็นของผิดกฎหมายในโลกอนาคต เพราะ ของที่ไม่ผ่านระบบ PF จะถูกตีตราว่า “ไม่สะอาด” หรือ “ไม่ยั่งยืน”
สิ่งที่ต้องรอดูต่อไปคือ เกมส์การโจมตีอาหาร real food จะมาในรูปแบบใดบ้าง ความสะอาด โรค หรือ การกีดกัน
เอาเป็นว่าถ้าคุณคิดว่ามันอีกยาวไกล ลองค้นคว้าดูไหมครับว่า นมโอ้ต ผลิตมาอย่างไร 5555
#pirateketo #กูต้องรู้มั๊ย #ม้วนหางสิลูก