-
@ HereTong
2025-04-16 15:07:23ต้องขอบคุณระบบ facebook ที่มีระบบการจัดการในการเก็บข้อมูล "แย่มาก" ทำให้การพยายาม search มาแปะรวมกันมันยาก เลยเขียนใหม่เลยแล้วกัน จะได้เอาไปเก็บในทุ่งม่วงด้วยครับ บริบทที่เราจะคุยกันคือ องค์ประกอบของ seed oil เอาแค่ว่ามันมีอะไรแล้วจะกลายเป็นอะไร ส่วนการทอด กับ กระบวนการ AGEs คงจะเขียนถึงต่างหาก เพื่อนๆที่เพิ่งรู้จักเฮีย มาใหม่ หรืออะไรก็แล้วแต่ เริ่มต้นจากการอ่านย้อนทำความรู้จักกันก่อน ก่อนที่จะทะลุถาม ถาม ถาม เข้าใจว่า สุจิปุลิ มันมี ปุจฉา แต่มันไม่ใช่ตัว main โอเคนะ เราคุยเรื่องนี้กันมา 8-9 ปีแล้ว ฝั่งคีโตนี่ถกเรื่อง seed oil จนก้าวข้ามกันไปนานแล้ว อย่าถามหาเลยว่าอะไรดี none of above อะครับ แล้วน้ำมันดีแต่ปรุงอาหารเลว มันก็เลวได้ จะดีก็ฟงหวิน จะเลวก็ฟงหวิน เฮียว่า... ถ้าเดินเข้าซูเปอร์แล้วมองไปที่ชั้นขายน้ำมัน คนส่วนใหญ่น่าจะเลือกหยิบน้ำมันพืชที่ขวดใส ๆ ฉลากบอกว่า “ช่วยลดคอเลสเตอรอล” โดยที่ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะภาพลักษณ์มันดูสะอาด ใส เบา สุขภาพดี และยังบอกอีกว่ามีไฟโตสเตอรอลสูง ฟังแล้วเหมือนมันคือฮีโร่ที่เกิดมาเพื่อปกป้องหัวใจเรา แต่เฮียอยากชวนให้ตั้งคำถามนิดนึงว่า… ไฟโตสเตอรอลมันคืออะไร แล้วมันจำเป็นกับร่างกายจริงไหม? คำตอบคือ ไฟโตสเตอรอลมันเป็นสารจากพืชที่โครงสร้างคล้ายคอเลสเตอรอลของเรา แต่ร่างกายไม่สามารถใช้มันได้เลย มันไม่ได้กลายเป็นฮอร์โมน ไม่ได้ช่วยซ่อมผนังเซลล์ ไม่ได้เป็นวัตถุดิบสร้างวิตามิน D แถมเวลามันเข้าไปในร่างกาย มันยังไปแย่งตัวดูดซึมคอเลสเตอรอลดี ๆ ที่เราควรจะได้อีก เหมือนเรากำลังจะกินไข่แดงอุ่น ๆ ที่มีคอเลสเตอรอลดีเต็มไปหมด แต่ไฟโตสเตอรอลดันมานั่งจองที่ก่อน แล้วก็ไม่ยอมให้ไข่เข้าไปนั่งในระบบเรา
ทีนี้บางคนอาจบอกว่า “เอ้า! ดีสิ ลดคอเลสเตอรอลได้” เฮียอยากบอกว่า… ลดไปแบบนั้น มันลดของดีที่ร่างกายต้องใช้ไปด้วย เพราะคอเลสเตอรอลไม่ใช่ผู้ร้ายนะ มันคือสารตั้งต้นของฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนความเครียด วิตามิน D และผนังเซลล์แทบทุกเซลล์ในร่างกาย และที่สำคัญ… คนที่มีคอเลสเตอรอลต่ำเกินไป มักมีภาวะซึมเศร้า ระบบภูมิคุ้มกันตก และมีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนแบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
น้ำมันพืชพวกนี้... โดยเฉพาะที่โชว์ว่ามีไฟโตสเตอรอลสูง มักจะมาจากเมล็ดพืชราคาถูก ต้องผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมหลายขั้น ตั้งแต่บีบ กลั่น ฟอกสี กำจัดกลิ่น แล้วก็ใส่สารป้องกันเหม็นหืน หรือบางแบรนด์ก็ต้องเติมวิตามินอีสังเคราะห์เข้าไป เพราะน้ำมันมันอ่อนแอขนาดโดนอากาศแป๊บเดียวก็เหม็น ทำไมต้องเติม? เพราะถ้าไม่เติม มันจะเหม็นหืนไวมาก ทั้งจากแสง ความร้อน และออกซิเจน ทำให้ขายไม่ออก คนไม่อยากใช้
และเฮียจะเล่าให้ฟังว่า ไอ้ไฟโตสเตอรอลที่โฆษณาว่าช่วยลดคอเลสเตอรอลนั้น ต่อให้จะเห็นผลจริง ๆ ก็ต้องบริโภควันละเป็นลิตรนะ... ใช่ ลิตร ไม่ใช่ช้อนโต๊ะ!
ซึ่งก่อนที่คอเลสเตอรอลในเลือดจะลด ตับของเรานี่แหละจะพังก่อน เพราะต้องขับกรองทั้งไฟโตสเตอรอลและอนุมูลอิสระจากน้ำมันพืชออกไปให้ได้ แต่โฆษณาไม่ได้เล่าแบบนั้นไง...
เพราะอะไรที่ดูดีจากโรงงาน มักไม่ได้ดีต่อร่างกายเท่าอาหารที่ออกมาจากธรรมชาติ นี่แหละเฮียถึงอยากเริ่มซีรีส์นี้ขึ้นมา “น้ำมันพืชขวดใส ในความเห็นของฉัน” เฮียจะพาไปดูทีละขวด ตั้งแต่น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน จนถึงน้ำมันเบลนด์ที่รวมกันมั่ว ๆ แล้วเขียนไว้ว่า “ดีต่อใจ” แต่อาจไม่ดีต่อ “ตับ ฮอร์โมน” เท่าไหร่นัก
ใครที่เคยเข้าใจว่าน้ำมันพืชคือของดี อาจต้องกลับมาทบทวนใหม่อีกครั้งว่าข้อมูลจากอีกมุมนึง สมควรแก่การพิจารณาไหม แล้วเดี๋ยวตอนหน้า เฮียจะเล่าให้อ่าน ว่า “น้ำมันรำข้าว” ที่หลายคนเข้าใจว่าดีต่อสุขภาพ จริง ๆ แล้วดีจริงไหม