-
![](https://image.nostr.build/08e42e5d516c0bc821fe3e21dcb64dd933f82e6d8b58575384fb9a60ea101e80.jpg)
@ Jakk Goodday
2023-08-11 05:47:04
ผมเกิดและโตในยุค 90’ ยุคเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรมคาบเกี่ยว ได้เห็นวิวัฒนาการของสังคมในหลายๆ ส่วน โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่า “Community” ที่ในอดีตไม่ได้มีกฏเกณฑ์หรือรูปแบบอันชัดเจนอย่างในปัจจุบัน.. ผมเกิดและโตในชนบทอันห่างไกลความเจริญ เรื่องราวและวิถีชีวิตที่จะเล่าจากนี้ไปก็จะขึ้นกับมุมมองหรือเลนส์ของผมเพียงคนเดียว
![image](https://i.imgur.com/wDzCBYm.png)
## คอมมูนิตี้ในอดีต
ในความหมายแบบไทยๆ ที่ผมอยากจะบัญญัติมันเสียเอง มันเริ่มจากภาพของเด็กวัยกระโปกที่จับกลุ่มทำกิจกรรมสนุกสนานเฮฮากัน เล่นสนุกด้วยจุดมุ่งหมายและจิตใจอันบริสุทธิ์ ในยุคของผมนั้นการปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ กับกลุ่มแก๊งค์เพื่อนๆ เป็นกิจกรรมสุดโปรดพอๆ กับเด็กทุกวันนี้รวมตัวกันเล่น ROV หรือ ROBLOX เลยก็ว่าได้
การผจญภัยของเด็กๆ มักจะมีกิจกรรมสุดท้ายรอพวกเขาอยู่ มันอาจเป็นการลงเล่นน้ำตามลำคลอง หนอง บึง หรือปีนต้นไม้เพื่อความเท่ สำรวจโลกเพื่อเรียนรู้อะไรบางอย่าง มันก็สนุกในแบบของมัน
เมื่อโตขึ้นมาในวัยมัธยม เด็กผู้ชายเริ่มเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น พวกเขาโตมาด้วยกันผ่านอะไรด้วยกันมามาก ความสัมพันธ์นั้นแน่นแฟ้นระดับยอมตายแทนกันได้ มันไม่มีสถานที่จัดเตรียมไว้ให้เรา ดังนั้นพวกเราต้องเลียบเลาะเสาะหาสถานที่สุมหัวคุยกันเอาเอง หัวข้อสนทนาในยุคนั้นไม่มีอะไรที่ไปไกลเกินกว่าประสบการณ์ที่พวกเขามี หรือเรื่องที่เคยได้เรียนมา รวมทั้งสื่อเพียงไม่กี่อย่างที่เข้าถึงได้ วิทยุและโทรทัศน์
ผู้ใหญ่ วัยทำงาน ไม่ได้มีรูปแบบสังคมอย่างวัยรุ่น กลุ่มสังคมของพวกเขานั้นเป็นวงเล็กๆ บ้านใกล้เรือนเคียง มานั่งรวมตัวพูดคุยกันทั่วไปในเรื่องสัพเพเหระ ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่ไม่ได้มีความเร่งรีบอะไร บางกลุ่มตั้งวงเหล้าใส่กันแต่เช้า ล้มหมู ล้มวัว ทำกับแกล้มสรวนเสเฮฮา อีกกลุ่มก็เข้าวัดฟังธรรมตามประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมา คนในอดีตราว 20-25 ปีก่อนในท้องถิ่นของผมนั้น ไม่ได้มีความเครียด ไม่ได้รับรู้ถึงความโสมมอะไรที่หยั่งรากลึกอยู่ภายในระบบเลย คำว่า Toxic คืออะไร? พวกเขาคงนึกถึงยาฆ่าหญ้า
เงิน ในวันที่ยังมีคุณค่าทำให้พวกเขามีความสุข ผมอดนึกถึงภาพเหล่านั้นไม่ได้จริงๆ
![image](https://i.imgur.com/NQiJkNd.png)
## โลกเสมือนที่ใหญ่กว่าโลกแห่งความจริง
คอมมูในแบบที่ผมประทับใจที่สุดและดูซีเรียสจริงจังที่สุดเห็นจะเป็น “สภากาแฟ” ประจำหมู่บ้านหรือในตลาด ร้านกาแฟโบราณแบบในภาพยนตร์ยุคเก่า หลายคนคงพอนึกออก กลุ่มคอมมูนี้จะสนใจเหตุบ้านการเมือง อ่านหนังสือพิมพ์จนกระดาษขาด ฟังรายงานข่าวกันแต่เช้า ถกกันดุเดือดเหมือนเป็นอีกโลกนึงเลยทีเดียว และสภากาแฟแบบนี้นี่แหละที่ผมชอบไปนั่งฟังมากที่สุด ด้วยความที่ผมเป็นเด็กชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เรื่องต่างๆ ที่ผู้ใหญ่คุยกันมันช่างทำให้ผมสมองงอกมากจริงๆ
ตัดภาพ Fast forward กลับมาในยุคปัจจุบัน เราแทบไม่ได้เห็นกลิ่นอายหรือบรรยากาศอะไรแบบนั้นอีกแล้ว คอมมูนิตี้บนโลกแห่งความจริงมันดับสลายไปสูญสิ้น ผู้คนอพยพไปใช้ชีวิตกันบนโลกออนไลน์จนอาจิณ แม้ตัวพวกเขาเองผมก็คิดว่าคงไม่รู้สึกตัว เราหลุดจากโลกความจริงไปไกล เราหลงไปกับข้อมูลที่ส่วนใหญ่เป็นการล่อลวง สนตะพายจมูกลากจูงพวกเราไปทางไหนก็ได้ น่าเศร้าเหลือเกิน..
ตีวงให้แคบเข้ามาในสังคมการลงทุนโดยเฉพาะในแวดวงบิตคอยน์ ผมพบเห็นเพียงสื่อส่วนใหญ่ที่ชี้นำและชักพาผู้คนเข้าสู่คอมมูนิตี้ด้วยเป้าหมายสำคัญคือ “เงิน” และ “ความร่ำรวย” ผมคิดไปเองว่าเจ้าของสื่อก็คงจะไม่รู้ตัวเองเช่นกันว่ากำลังโดนสนตะพายจมูกอยู่โดยใครสักกลุ่มหรือใครบางคน ทั้งหมดนี้จะไม่ช่วยให้ใครเก่งพอจะเอาตัวรอดหรือปรับตัวได้เองในชีวิตการลงทุน มันไม่ทำให้หลายคนเข้าใจแก่นแท้หรือธรรมชาติของตลาดทุนอย่างแน่นอน
เมื่อคนส่วนใหญ่ภายในคอมมูนิตี้ถูกชักพาในไปทิศทางนั้น บทสนทนาที่เราจะพบได้อย่างเดือนดาดบนโลกโซเชียลก็คงเป็นข่าวความเคลื่อนไหวระยะสั้นที่ส่งผลต่อราคาสินทรัพย์ พัฒนาการไร้สาระที่เอามาปลุกปั่นให้ดูดี พฤติกรรมการอวดไลฟ์สไตล์ อวดร่ำอวดรวยของอินฟลูเอนเซอร์ ที่ถูกหลอกมาอีกทีว่าควรสร้างภาพให้ดูน่าเชื่อถือ น่าเศร้ามากจริงๆ
## มองหาที่ทางของตัวเอง
ผมเชื่อลึกๆ นะว่า บิตคอยเนอร์ในยุคหลังๆ ที่ยังไม่ผ่านสักไซเคิลมักจะรู้สึกอึดอัด หงุดหงิดเวลาต้องการ “คนคุยด้วย” ในชีวิตจริง มันไม่มีอีกแล้วกลุ่มปั่นจักรยานล่ากิ้งก่า กลุ่มสุมหัวที่ปลายนา หรือสภากาแฟ มันเหลือเพียงโลกออนไลน์ที่ต้องไปอยู่ท่ามกลาง Anonymous ร้อยพ่อพันแม่ กลางผู้คนที่ตัวเราเองก็ยากที่จะแสดงออกหรือเปิดใจ..
“คุยบิตคอยน์กับใครก็ไม่รู้เรื่อง” มันเรื่องปกติ.. ปกติจริงๆ ประสบการณ์การป้ายยาส้มแบบเฟลๆ น่าจะเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับพวกเราทุกคน จุดนี้เองที่ผมตระหนักได้ว่า คนชอบเรื่องเดียวกันก็ควรได้คุยกับคนประเภทเดียวกัน อย่างน้อยก็ชื่นชอบเรื่องเดียวกันก็ยังดี ส่วนหน้าตาหลังการรวมตัวกันจะออกมาเป็นยังไงก็ปล่อยให้สังคมมันปรับตัวของมันไปเองอย่างออแกนิกก็แล้วกัน
“จับกลุ่มคุยกันเรื่องบิตคอยน์” มันเป็นที่มาของไอเดียแบบแนวๆ รายการ “สภายาส้ม” จนล่าสุดเราพึ่งมี “สภายาม่วง” ที่แคแรคเตอร์แตกต่างกันพอสมควร มันเป็นการสนทนากับบนโลกสีม่วงที่แต่ละคนจะได้เป็นตัวของตัวเองแบบไร้การปรุงแต่ง ได้คุยในสิ่งที่อยากคุย ได้เล่นกับคนในแชท ได้หัวเราะแบบที่ไม่ต้องกั๊ก ได้ทำเรื่องน่าอายแต่สนุกชิบหายเลย
ผมเล่ามาถึงตรงนี้ อย่าเข้าใจผิดว่าผมลากมาตบด้วยการขายของ ผมแค่กำลังจะบอกว่า.. สภาแบบนี้มันไม่เห็นจำเป็นต้องรอให้ Right Shift ทำ ลองจินตนาการสิว่า มันมีสภาแบบนี้อยู่ที่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ หรือจังหวัด หรือภูมิภาคของคุณเอง เช่น สภาชลบุรี, สภาขอนแก่น, สภาน่าน หรือสภายาส้มเขาใหญ่ ฯลฯ
มันเป็นไปได้นะ.. คำถามคือเราจะสร้างสภาแบบนั้นขึ้นมายังไง.. ก็ใช้ประโยชน์จากสื่อโซเชียลมีเดียที่เรามีนี่แหละ ประกาศตามหาพวก ทำความรู้จัก นักเจอกัน เริ่มจากเหตุการณ์เล็กๆ จุดเริ่มต้นน่ารักๆ นำไปสู่วัฒนธรรมสังคมอันยิ่งใหญ่แบบที่พวกเราทำกันมาแล้วนั่นไง
ผมอยากเห็นอะไรแบบนั้น อยากให้มีภาพความประทับใจจากหลายๆ พื้นที่มาอวด มาโชว์ มาแบ่งปันกัน มันก็ดีกว่าการเช็คอินสถานที่ต่างๆ ที่ตัวเราเองก็ไม่เห็นเคยอินกับมันเลย..
รออยู่นะ.. สภายาส้ม สภายาม่วง ทั่วไทย