-

@ Journaling Our Journey
2025-03-06 09:55:12
https://image.nostr.build/35ce6a186c2e6bd12e5feac177941112d082c3e9a6705f9b29b7f6084af245c9.jpg
ผมเชื่อว่าคนไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ใช้ social media
.
อย่างน้อยที่สุด ท่านผู้อ่านก็น่าจะใช้ social media
อย่าง Facebook หรือ X หรือ TikTok อยู่แน่ๆ
.
Social media ถือเป็น “เครื่องมือ” ที่มีประโยชน์กับชีวิตของเรามากครับ
.
มันช่วยให้เรา connect กับผู้คนได้ง่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนที่มีบางอย่างเหมือนกับเรา
(เช่น เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน มีงานอดิเรกเหมือนกัน เป็นแฟนคลับดาราคนเดียวกัน)
.
นอกจากนี้
หลายคนยังได้รับ support จำนวนมาก
จากคนอื่นผ่าน social media อีกด้วย
.
อย่างไรก็ตาม เหรียญมีอยู่ 2 ด้าน
.
แม้ social media จะช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นในหลายๆด้าน
แต่ social media ก็สามารถส่งผลร้ายกับสุขภาพจิตเราได้เช่นกัน
.
ผลการศึกษาในปี 2025 พบว่า
การใช้ social media อาจส่งผลให้เรา
“หัวร้อน” หรือ “หงุดหงิดรำคาญใจ” มากขึ้นได้
.
แน่นอนครับว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้ social media
จะรู้สึก “หัวร้อน” หรือ หงุดหงิดรำคาญใจ”
.
อย่างไรก็ตาม หากเราเป็นคนที่…
(1) ใช้ social media บ่อยๆ (เช่น ใช้ตลอดวัน)
(2) โพสต์ลง social media ของตัวเองบ่อยๆ
(3) มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นบน social media บ่อยๆ (เช่น พิมพ์ comment ในโพสต์ของคนอื่น) - โดยเฉพาะในเรื่องการเมือง
.
หากเราใช้ social media ในลักษณะที่ตรงกัน 3 ข้อข้างต้น
เรามีโอกาสสูงที่จะรู้สึก “หัวร้อน” หรือ “หงุดหงิดรำคาญใจ”
จากการใช้ social media มากเป็นพิเศษ
เมื่อเทียบกับคนอื่นๆที่ใช้ social media ครับ
.
ใช่แล้วครับ
ต่อให้เราจะเป็นคนที่ดู content ที่มีเนื้อหา
“ชวนหัวร้อนง่าย” อย่าง content การเมือง
แต่ถ้าเราเป็นคนที่ “ดูอย่างเดียวแต่ไม่ comment”
เราก็ยังมีแนวโน้มที่จะไม่ได้รู้สึก “หัวร้อน” หรือ “หงุดหงิดรำคาญใจ”
มากเท่ากับคนที่ใช้ social media แบบข้างต้นครับ!
.
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่ผมหยิบมาเล่าในวันนี้
จะเป็นประโยชน์ในเบื้องต้นกับทุกๆท่าน
ที่ต้องการใช้ social media โดยไม่ “หัวร้อน” เกินไปนักนะครับ
.
อ้างอิง
Perlis RH, Uslu A, Schulman J, et al. Irritability and Social Media Use in US Adults. JAMA Netw Open. 2025;8(1):e2452807. doi:10.1001/jamanetworkopen.2024.52807
#จิตวิทยา #siamstr