-
@ sakkasem suwandee
2025-01-15 00:39:54
ใครที่ติดตามข่าวสารการเงิน อาจจะเคยได้ยินชื่อ
บริษัท Microstrategy (MSTR) ของ Michael Saylor
ซึ่งเป็นบริษัทที่ซื้อ Bitcoin เก็บมหาศาล เเละได้เอา Bitcoin เป็น Reserve ของบริษัท เเละทำให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 1,000%
มีการออก Convertable Bond กู้เงินมาซื้อเป็น Bitcoin เป็นจำนวนมาก
คนภายนอกที่ไม่เข้าใจอาจจะคิดว่าซื้อ Bitcoin เก็บเนี่ยนะ ผันผวนมาก
คำถาม คือ Michael Saylor เค้าเห็นอะไรเเละกลยุทธ์ของบริษัท
ในการทำคืออะไร ที่แค่ซื้อ Bitcoin บริษัทมูลค่าเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้
มีความเสี่ยงอะไรมั้ย ณ ตอนนี้ มีบริษัทอื่นๆเริ่มที่จะใช้กลยุทธ์เดียวกัน
สรุปจากคลิป
Saylor กู้ซื้อบิตคอยน์ยังไงให้ตลาดสะเทือน | Right Talk EP.7
https://www.youtube.com/live/mxAFqnL7MxY?si=JbETn-4CGR7EP_v1
### การลงทุนและการออม
ก่อนจะไปที่กลยุทธ์ เราต้องเข้าใจการออมเเละการลงทุนกันก่อนครับ
*การออม*
คือ การเก็บเงินไว้ในที่ที่ปลอดภัย เเละใช้เมื่อยามจำเป็นหรือจะจุดประสงค์อะไรก็ตาม ควรเก็บในสิ่งที่เก็บมูลค่าได้ ไม่เสื่อมสลาย
*การลงทุน*
คือ การต้องการเงินเพิ่ม เเละมีความเสี่ยงว่าสามารถสูญเสียเงินบางส่วนไปได้
ระบบการเงินที่ควรเป็นคือ เงินควรรักษามูลค่าของมันได้ เเละ เพิ่มอำนาจการจับจ่ายใช้สอย
ถ้าเงิน 100 บาท สามารถทำให้อยู่ใช้ชีวิตได้ การลงทุนคงไม่จำเป็นเเค่เก็บออมก็เพียงพอ
เงิน 100 บาท กับ เงิน 1,000,000 บาท อำนาจการใช้สอยไม่เท่ากัน
เเต่เเค่เงิน 100 บาท เพียงพอสำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ได้เพียงพอเเล้ว
เเต่ในระบบ Fiat ปัจจุบัน ทำให้เงินมีมูลค่าน้อยลง ทุกคนจึงถูกบังคับให้ไปลงทุน
บีบให้คนที่ต้องการแค่ออมต้องไปลงทุน ไม่ใช่ทุกคนที่จะลงทุนเเล้วสามารถทำกำไรจากตลาดได้
Bitcoin ทำให้การออมเเละการลงทุน แยกออกจากกันอย่างที่ควรจะเป็น
### กลยุทธ์ของ MSTR
#### 1.หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือ Convertable Bond
Saylor ใช้วิธีการออก "หุ้นกู้แปลงสภาพ" หรือ Convertable Bond
หุ้นกู้แปลงสภาพ คือ
หุ้นกู้ที่แถมสิทธิ์ แปลงจากหนี้เป็นทุน
ถ้าคุณให้ กู้ 100 บาท แทนที่จะคืนเป็นเงินเเต่ให้สิทธิ์เปลี่ยนหนี้เป็นหุ้นของบริษัทได้
จาก 100 บาท แปลงไปไปหุ้นของทางบริษัทแทน
![image](https://yakihonne.s3.ap-east-1.amazonaws.com/52adc2ef265d6627e11ce40d532fd208f13bf24c2b5ab6f82c929aed9f4bc0ba/files/1736431130076-YAKIHONNES3.jpg)
*ขอบคุณรูปภาพจาก*
https://www.thaibma.or.th/EN/Investors/Individual/Blog/2017/01112017.aspx
เมื่อราคา Bitcoin ขึ้น ราคาสินทรัพย์ของบริษัทก็จะมากขึ้น แทนที่ทาง Saylor จะคืนเป็นเงินเปลี่ยนคืนเป็นหุ้นบริษัทแทน
ถ้าพูดในอีกแง่ คือ มีความสามารถพิมพ์เงินเองได้ในรูปแบบของหุ้น ออกหุ้นใหม่จ่ายหนี้ของตัวเองได้เรื่อยๆ
ในกรณีปกติ ผู้ลงทุนที่จะซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพนั้น ต้องคาดการณ์ว่าหุ้นบริษัทนี้ขึ้น เพราะแทนที่จะได้เงินคืนได้เป็นหุ้นจะมีมูลค่ามากกว่า เเละไปขายในตลาดต่อได้
เเละหุ้นกู้แปลงสภาพจะมีดอกเบี้ยต่ำกว่าหุ้นกู้ทั่วไป เพราะบริษัทที่ออกมั่นใจว่าหุ้นของตนนั้นมีโอกาสที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น จึงต้องการเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าเเต่คุณก็ได้หุ้นไป
#### 2.มีความรู้เรื่อง Bitcoin เเละ Cycle ของ Bitcoin
Saylor มีการศึกษาเรื่อง Bitcoin เป็นอย่างดี ว่าอนาคตสามารถที่จะเป็น
Store of value เเละ เป็นทองคำดิจิตอล
รู้เรื่อง cycle 4 ปีของ Bitcoin ที่จะมี Having
(Having คือ ทุก 4 ปี Bitcoin จะมี Supply ลดลงครึ่งนึง)
![image](https://yakihonne.s3.ap-east-1.amazonaws.com/52adc2ef265d6627e11ce40d532fd208f13bf24c2b5ab6f82c929aed9f4bc0ba/files/1736433296440-YAKIHONNES3.jpg)
*ขอบคุณรูปภาพจาก*
https://tabtrader.com/academy/articles/bitcoin-halving-what-is-it-and-why-it-matters
ถ้าสมมุติว่า มีความต้องการเหมือนเดิม เเละ มี Supply ลดลงครึ่งนึง
ตามหลักเศรษฐศาสตร์ทั่วไปเเล้ว ราคาจะต้องเพิ่มขึ้น เพราะความต้องการมากกว่าความสามารถในการผลิต
เเละวงจรของ Bitcoin เมื่อราคาขึ้นสูงสุดในทุกรอบมันจะลงมาทำราคา Low จากยอด
ตามสถิติประมาณ 70-80%
ซึ่งต้องวางแผนให้รอดในช่วงราคาต่ำสุดในเเต่ละรอบจึงออกเเบบให้มีระยะเวลา 5 ปี เพื่อที่จะครอบคลุมช่วงเวลาที่ราคา Bitcoin ต่ำสุดที่ใช้เวลารอบละประมาณ 4 ปี
#### 3.มีความเข้าใจ Option
Option หรือ สัญญาสิทธิ
คือ สัญญาที่ผู้ซื้อได้รับ *สิทธิที่จะซื้อ* หรือ *สิทธิที่จะขาย* จากผู้ขาย
อ้างอิงราคา จำนวน เเละ ระยะเวลา โดยจ่ายค่าพรีเมี่ยม เเละ เลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้
ที่ต้องนำเอา Option มาใช้ เนื่องจากมีการคิดมาเเล้วว่า ถ้าช่วง Bear Market ของ Bitcoin การที่จะขายหุ้นกู้จะยากขึ้นเพราะราคา Bitcoin ลง หุ้นของบริษัทต้องลดลง
งั้นวิธีที่นำมาใช้ให้สามารถขายหุ้นกู้ในทุกสภาพตลาด
และเครื่องมือที่ใช้ทำกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงนั้นคือ *Option*
ตัวอย่างของ Option
![image](https://yakihonne.s3.ap-east-1.amazonaws.com/52adc2ef265d6627e11ce40d532fd208f13bf24c2b5ab6f82c929aed9f4bc0ba/files/1736847793716-YAKIHONNES3.jpg)
*ขอบคุณรูปภาพจาก*
https://www.setinvestnow.com/th/derivative/what-are-futures-and-options
ตัวอย่าง
เปิดจองหุ้นขายสิทธิในการซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท
โดยต้องจ่ายค่าจอง 5 บาท(ค่าพรีเมี่ยม)
ถ้าราคาหุ้นวิ่งขึ้นไป 110 บาทเเสดงว่าเราได้กำไร 5 บาทเนื่องจากต้องจ่ายค่าพรีเมี่ยมไป 5 บาท
ถ้าราคาหุ้นวิ่งลง 80 บาทเราก็จะไม่ทำการใช้สิทธิเพราะว่าไปซื้อหุ้นจริงๆราคาถูกกว่าการซื้อตามสิทธิเเต่เราจะเสียเเค่ค่าพรีเมี่ยม
ซึ่ง *หุ้นเเปลงสภาพ* ของ Saylor นั้นเป็นการซื้อหุ้นเเละได้สิทธิของ option มาด้วย
เเละฟรีค่าพรีเมี่ยม
#### 4.Delta Hedged Call
![image](https://yakihonne.s3.ap-east-1.amazonaws.com/52adc2ef265d6627e11ce40d532fd208f13bf24c2b5ab6f82c929aed9f4bc0ba/files/1736859761231-YAKIHONNES3.jpg)
*ขอบคุณรูปภาพจาก*
https://thefinancialengineer.org/financial-engineering/volatility-engineering-and-volatility-trading/
การจะเข้าใจ Delta Hedged Call ต้องเข้าใจ
*ความผันผวน*
ความผันผวนในราคาหุ้น คือ
ตัวอย่าง
ราคาหุ้น A ใน 1 วันมีการวิ่งของราคาจาก 100 บาทไปที่ 200 บาทลงไปที่ 50 บาทเเละกลับมาที่ราคา 100 บาท
ราคาหุ้น B ใน 1 วันมีการวิ่งของราคา 100 บาทไปที่ 105 บาทลงไปที่ 95 บาทเเละกลับมาที่ราคา 100 บาท
แสดงว่า หุ้น A มีความผันผวนมากกว่าหุ้น B
ซึ่งมันจะมีวิธีการในการหากำไรจากความผันผวนของราคา โดยไม่ต้องสนใจเรื่องของราคาหุ้น
**Concept ของ Delta Hedged Call**
หลังจากที่เข้าใจ option ความผันผวนเเล้ววิธีการ
คือ การ call option เเละ Short sell หุ้น เพื่อ Hegding หุ้นตัวเอง
ตัวอย่าง
```
ปัจจุบันราคาหุ้น 100 บาท call option ราคาใช้สิทธิที่ 200 บาท
ราคาหุ้นได้มีการวิ่ง 150 บาท ลงมา 80 บาท กลับมาที่ราคา 110 บาท
```
สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ราคาพรีเมี่ยมจะมากกว่าราคาที่ Short sell เพราะนักลงทุนจะรู้สึกว่ามีโอกาสที่ราคาจะวิ่งไปที่ราคาใช้สิทธิที่ 200 บาท
กลับกัน
```
ราคาสินทรัพย์ 100 บาท call option ราคาใช้สิทธิที่ 200 บาท
ราคาหุ้นได้มีการลงมา 80 บาท ขึ้นไปที่ 150 บาท กลับมาที่ราคา 90 บาท
```
ราคาพรีเมี่ยมจะลงน้อยกว่าราคาที่ Short sell เพราะนักลงทุนจะรู้สึกว่ามีโอกาสที่ราคาจะวิ่งกลับไปราคาใช้สิทธิที่ 200 บาทได้
ซึ่งกราฟนี้จะเป็นไปได้คือ หุ้นต้องเหวี่ยงเเรงขึ้นเรื่อยๆ
การใช้ความผันผวนของสินทรัพย์ต้องหาสินทรัพย์ที่ผันผวน
Bitcoin ถือเป็นสินทรัพย์ที่ผันผวนมากที่สุดตัวนึง
ทำให้ราคาหุ้นของ MSTR นั้นผันผวน ทำให้ saylor กล้าที่จะตั้งราคาแปลงสิทธิ์สูงกว่าหุ้นถึง 55%
(หุ้นแปลงสภาพของ MSTR
ราคาใช้สิทธิคือ 672 ดอลล่าร์ต่อหุ้นขณะที่ราคา 19/11/2024
อยู่ที่ 433 ดอลล่าร์ต่อหุ้น สามารถดูเพิ่มเติมที่
https://www.microstrategy.com/press/microstrategy-completes-3-billion-offering-of-convertible-senior-notes-due-2029-at-0-coupon-and-55-conversion-premium_11-21-2024)
จะเห็นได้ว่านักลงทุนที่เข้าใจระบบนี้ทำกำไรได้ทั้งราคาขึ้นเเละลง
ทำให้หุ้นกู้ของ MSTR นั้นสามารถขายได้
เเละนำเงินไปซื้อ Bitcoin
ทำให้ราคาผันผวนมากขึ้นอีก
### จำนวนหุ้นมากขึ้นมูลค่าหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมจะลดลงมั้ย?
โดยปกติการออกหุ้นเพิ่มจะทำให้มูลค่าของหุ้นลดลงเช่น
ผู้ถือหุ้นเดิมมี 100 หุ้น ทั้งบริษัทมี 1,000 หุ้น คิดเป็น 10%
ออกหุ้นเพิ่ม 1,000 หุ้นเป็น 2,000 หุ้น
สัดส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมเป็น 5%
ทำให้มูลค่าของผู้ถือหุ้นเดิมลดลงด้วย
เเต่ MSTR ให้ราคาเเปลงสิทธิมากกว่า 50% ทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้มูลค่าเพิ่มขึ้น
ตัวอย่าง
```
หุ้นบริษัท 10 หุ้น
Bitcoin 10 BTC
Bitcoin/Share = 1 BTC
```
สิ่งที่ MSTR ทำ
```
หุ้นกู้ 100 บาท
ราคาBitcoin 100 บาท
ราคาแปลงสิทธิ 50% = 200 บาท
แปลงได้ 0.5 หุ้น
หุ้นบริษัทหลังออกหุ้นกู้ 10.5 หุ้น
Bitcoin 11 BTC
Bitcoin/share = 1.045 BTC
```
ทำให้นักลงทุนเดิมได้มูลค่ามากขึ้นด้วย ซึ่งเอื้อให้ได้ประโยชน์กับทุกฝ่าย
เเละเมื่อราคา Bitcoin เพิ่มมูลค่าบริษัทก็มากขึ้นตาม ทำให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือ
ในการออกหุ้นกู้ได้มากขึ้นอีก
จากกระบวนการนี้เป็นการวนลูปเพื่อสามารถเพิ่ม Bitcoin ได้เรื่อยๆตราบที่ Bitcoin มีมูลค่าเเข็งเเกร่งกว่าดอลล่าร์
### ความเสี่ยงเเละอนาคตของกลยุทธ์นี้
สิ่งที่จะทำให้กระบวนการนี้ไม่ได้ผลคือ เมื่อ Bitcoin ตาย
หรือสูญเสียความสามารถการเป็น Store of value
กระบวนการนี้จะทำให้มูลค่าของบริษัทหายไปอย่างรวดเร็ว
#### บริษัทอื่นทำตามเเละถ้าระดับประเทศทำได้มั้ย?
เเน่นอนว่ามูลค่าของ Bitcoin เพิ่มมากขึ้นเเน่ๆเเละคนที่ได้ประโยชน์ก็คือ MSTR
ถ้าบริษัท Apple หรือ Google เริ่ม Reserve Bitcoin จะทำให้มีเเรงกระเพื่อมให้บริษัทอื่นๆทำตาม มีโอกาสที่ supply ของ Bitcoin น้อยลงมากจะเกิดการเเย่งชิงกันขึ้น
ยิ่งระดับประเทศสามารถลดกลไกของการกู้ได้ทันที
เพราะพิมพ์เงินมาซื้อเพื่อปลดหนี้ของตัวเองได้
ตัวอย่างในอดีตมีมาเเล้วที่ พิมพ์เงินที่อ่อนค่ากว่าไปซื้อสินทรัพย์ที่เเข็งกว่า
ต้องพิมพ์เงินให้เเรงที่สุดไปซื้อให้ได้มากที่สุด ล้างหนี้เเละประกาศเงินสกุลใหม่
สรุปสุดท้ายทั้งหมดนี้เป็นการพูดคุย ทฤษฎี ที่คิดว่าทาง MSTR ของ Michael Saylor น่าจะมีกลยุทธ์ในการเก็บ Bitcoin โดยใช้ความรู้ Traditional Financial ในการแปลงทรัพย์สินจากเงิน Fiat เป็น Bitcoin
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับบบ