-
@ SOUP
2025-03-20 09:21:42📢 "ซื้อหนี้ประชาชน" ทางออก หรือ กับดักเศรษฐกิจ
คุณเคยได้ยินไหม "เป็นหนี้แล้วไม่ต้องจ่าย เดี๋ยวมีคนมาซื้อให้" ฟังดูเหมือนฝันที่เป็นจริงใช่ไหม แต่เดี๋ยวก่อน...ลองคิดดูให้ดี ถ้าทุกคนหยุดจ่ายหนี้ แล้วใครกันที่จะเป็นคนแบกรับภาระนี้ ถอดรหัสแนวคิด "ซื้อหนี้ประชาชน" ด้วยเศรษฐศาสตร์แบบง่ายๆ และดูว่ามันจะช่วยเศรษฐกิจได้จริง หรือเป็นเพียง "ยาแก้ปวด" ที่ไม่รักษาอาการแท้จริง เรื่องราวของหนี้ที่ไม่มีวันหมด ลองนึกภาพตามนะ... "สมชาย" กู้เงินมาซื้อรถ 🚗 แต่ผ่อนต่อไม่ไหว ธนาคารจะยึดรถไปขายทอดตลาด แต่ทันใดนั้นก็มีโครงการใหม่จากภาครัฐหรือเอกชน "ซื้อหนี้ออกจากระบบธนาคาร" ฟังดูดีใช่ไหม แต่ปัญหาคือ ถ้าสมชายรู้ว่ามีคนช่วยเสมอ เขาจะมีแรงจูงใจในการจ่ายหนี้ต่อไปหรือเปล่า นั่นแหละ...จุดเริ่มต้นของกับดัก "Moral Hazard"
บทเรียนจาก #HenryHazlitt ผู้เขียน Economics in One Lesson
1 มันช่วยแก้หนี้ได้จริง...หรือแค่ยืดปัญหา Hazlitt เคยเตือนไว้ว่า เศรษฐกิจที่ดีต้องมองผลกระทบระยะยาว ไม่ใช่แค่ผลดีชั่วคราว 🔹 สิ่งที่ดูเหมือนช่วยเหลือวันนี้ อาจสร้างปัญหาที่ใหญ่กว่าในอนาคต 🔹 การแทรกแซงตลาดมักส่งผลให้เกิด "ผลกระทบที่มองไม่เห็น" ซึ่งอาจเลวร้ายกว่าปัญหาที่พยายามแก้ Hazlitt เชื่อว่าการซื้อหนี้แบบนี้อาจดูเหมือนช่วยเหลือประชาชนในระยะสั้น แต่ แท้จริงแล้วมันอาจกระตุ้นให้คนเคยชินกับการไม่จ่ายหนี้ และรอให้รัฐหรือเอกชนมาช่วยเสมอ ลองคิดดูว่า...
💡 ถ้าคนรู้ว่า "เป็นหนี้แล้วไม่ต้องจ่าย เพราะเดี๋ยวมีคนมาช่วย" แล้วพวกเขาจะพยายามจ่ายหนี้ในอนาคตไหม 💡 แล้วใครกันแน่ที่ต้องแบกรับหนี้พวกนี้ ธนาคาร เอกชน หรือสุดท้ายเป็น ภาษีจากประชาชนทุกคน เงินทุกบาทที่ใช้ ต้องมาจากที่ไหนสักแห่งเสมอ
ดังนั้น หากรัฐหรือเอกชนใช้เงินไปซื้อหนี้ แล้วไม่สามารถเก็บคืนได้ เงินนั้นก็จะหายไปจากระบบ เหมือนโยนลงทะเล แล้วแบบนี้คือการแก้ปัญหาจริงๆ หรือแค่ยืดเวลาจนระเบิดลง Hazlitt คงบอกว่า..."ไม่มีวิธีลัดในเศรษฐศาสตร์ การช่วยหนี้แบบนี้เป็นเพียงการเลื่อนเวลาความเสียหาย ไม่ใช่การแก้ปัญหา"
2 "ซื้อหนี้" = เงินจากไหน ผู้เสนอแนวคิดบอกว่า "เราจะใช้เงินเอกชน ไม่ใช่เงินรัฐ" แต่ในความเป็นจริง เอกชนไม่ได้มีเงินเหลือเฟือขนาดนั้น ทางเลือกที่เป็นไปได้ก็คือ... รัฐบาลต้องอุดหนุน ซึ่งสุดท้ายก็มาจากเงินภาษีเราๆ นี่แหละ หรือเอกชนคิดค่าธรรมเนียมเพิ่ม ทำให้ประชาชนต้องจ่ายมากขึ้นในระยะยาว
3 มันอาจทำให้เศรษฐกิจพังเร็วขึ้น Hazlitt อธิบายเรื่อง "เศษแก้วที่แตก" (Broken Window Fallacy) ว่า "การทำลายบางสิ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ทำให้เราได้กำไรเพิ่ม แต่มันแค่โยกย้ายค่าใช้จ่ายไปที่อื่น" เช่นเดียวกันกับการซื้อหนี้ มันไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่เพียงโยกหนี้ไปที่คนอื่น
🎯 แล้วทางออกที่ดีกว่าคืออะไร แทนที่จะใช้มาตรการซื้อหนี้เพื่อ "ปิดบัง" ปัญหา มาลองดูวิธีแก้ปัญหาที่ใช้ หลักการตลาดเสรีและเศรษฐศาสตร์ที่แท้จริง กันดีกว่า 👇
✅ 1. ปล่อยให้กลไกตลาดจัดการหนี้ตามธรรมชาติ ปัจจุบันมีบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ที่รับซื้อหนี้เสียจากธนาคารในราคาที่เหมาะสมอยู่แล้ว หากปล่อยให้กลไกตลาดดำเนินไป ธนาคารและสถาบันการเงินจะสามารถคัดกรองลูกหนี้ที่สามารถชำระหนี้ได้ออกมาโดยอัตโนมัติ
แล้วทำไมต้องปล่อยให้ตลาดทำงาน
-คนที่สามารถจ่ายหนี้ ได้จะมีแรงจูงใจในการจ่ายต่อ -คนที่จ่ายไม่ได้จริงๆ ก็จะต้องเจรจาปรับโครงสร้างหนี้เอง -บริษัทบริหารหนี้สามารถจัดการได้ดีกว่าภาครัฐ เพราะมีแรงจูงใจทางกำไร
✅ 2. ส่งเสริมการออม และสร้างวินัยทางการเงินให้ยั่งยืน ปัญหาหนี้ครัวเรือน ไม่ใช่แค่เพราะ "ไม่มีเงิน" แต่เพราะพฤติกรรมการใช้เงิน และผลกระทบจากเงินเฟ้อ Henry Hazlitt เตือนว่า การพิมพ์เงินและใช้จ่ายเกินตัวของรัฐบาลเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูง ซึ่งทำให้เงินที่ประชาชนเก็บออม มีมูลค่าลดลงตลอดเวลา บ.ก.จิงโจ้บอกว่า #เวลามีค่าศึกษาบิตคอยน์
✅ 3. ถ้ารัฐบาลต้องการช่วยเศรษฐกิจ ต้องเน้นที่การสร้างงานจริงๆ ผ่านกลไกตลาด ไม่ใช่การแทรกแซงที่ทำให้ประชาชน "เคยชิน" กับการไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ของตัวเอง
แนวคิดนี้ช่วยอย่างไร
-คนที่มีงานทำ = มีรายได้ = สามารถชำระหนี้ได้เอง -ธุรกิจเติบโตขึ้น ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว -ไม่ต้องให้รัฐเข้ามาแทรกแซงระบบการเงินมากเกินไป
✅ 4. เปิดเสรีสินเชื่อ ให้การแข่งขันทำงานแทนรัฐ ทุกวันนี้สินเชื่อจากธนาคารอาจมีข้อจำกัดสูง ทำให้ประชาชนต้องไปพึ่งพาหนี้นอกระบบ หรือดอกเบี้ยแพงๆ
ถ้ารัฐเปิดเสรีสินเชื่อมากขึ้นล่ะ
-เพิ่มการแข่งขันในภาคธนาคาร ทำให้ดอกเบี้ยต่ำลง -ธนาคารมีแรงจูงใจในการให้สินเชื่อกับลูกหนี้ที่มีความสามารถในการจ่าย -หนี้นอกระบบลดลง ประชาชนสามารถกู้เงินในระบบที่ปลอดภัย
ถ้าคุณเป็นสมชาย แล้วรัฐบาลเสนอให้ซื้อหนี้ของคุณ…คุณจะยอมไหม คุณคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี หรือกับดักที่รอทำให้เศรษฐกิจล่มสลาย คอมเมนต์มาบอกกันหน่อยแล้วแท็กเพื่อนที่คุณคิดว่า "ต้องอ่านเรื่องนี้"
แชร์บทความนี้ให้คนรอบตัวคุณ ให้พวกเขารู้ทันว่านโยบายแบบนี้มีผลกระทบอย่างไรกับเศรษฐกิจของเรา 🙃 #Siamstr #EIOL