-

@ SutjaD
2025-05-06 12:47:28
' มนุษย์นั้นมีความงามทางศีลธรรมอยู่ในใจมาตั้งแต่แรก ทำไมยังต้องคิดทฤษฎีมากมายเพื่อทำลายความดีนั้น ' #siamstr
*ไม่ได้ใช้ AI เขียน*
นี่คือ 1 ในประเด็นที่จับได้ในงานของ ฟีโอดอร์ ดอสโตเยสกี - อาชญากรรมกับการลงทัณฑ์
ทั้งชีวิตของผม Verified มาแล้วว่าในแง่การถือครองทรัพยากร มนุษย์เข้ากันได้กับ Natural Right ที่สุด คือสิทธิในทรัพย์สินเพื่อตัวเอง
สิทธิในร่างกายเพื่อตัวเองเช่นกัน เรียกรวมกันได้ว่ามนุษย์มีสิทธิ์ในชีวิตของตน ผู้ใดจะพรากมาไม่ได้ ก็เรียกได้ว่ามันเป็นแนวคิดหรอ มันก็เรียกได้ว่าเป็นแนวคิดเพราะ จอห์น ล็อค เสนอ แต่ผมว่ามันเหนือกว่าแนวคิด เพราะมนุษย์ทุกคนก็ต่างยอมรับในสิทธิ์ตามธรรมชาตินี้ เพราะมันแฟร์กับชีวิตที่สุด
ผมจึงขอเกี่ยวโยงว่าสิทธิตามธรรมชาติโดยที่ต้องเน้นย้ำเรื่องการเคารพสิทธิในชีวิตของกันและกันในสังคม คือ การยึดถือมั่นอย่างแท้จริงว่าเราจะไม่ฆ๋ากันและกัน มันคือความงามทางศีลธรรมที่อยู่ในใจมนุษย์ ( ปกติ )มาตั้งแต่แรก
มนุษย์เราเลยใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อพัฒนาตัวเอง เพื่อสะสมความมั่งคั่ง
แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย ไม่ว่าคุณจะยกว่าเป็นเพราะระบบเงินเฟียต เป็นเพราะรัฐบาล เป็นเพราะความเหลื่อมล้ำ เป็นเพราะช่วงที่เกิดเหตุการณ์ในวรรณกรรมนี้มันเป็นช่วงเลิกทาสในรัสเซีย นานาจิตตังหลายเหตุผลนั่นแหละ จะเหตุผลใด คนจนก็ยังมีอยู่ในสังคม.
คนจนคนนั้นคือราสโคลนิคอฟ ตัวเอกในวรรณกรรมเรื่อง อาชญากรรมกับการลงทัณฑ์ เขาเป็นนักเรียนกฎหมาย ในขณะเดียวกันก็เป็นนักคิดที่เก่ง. ความจนมันน่ากลัว ดังว่า อกหักเรื่องเล็ก ไม่มีแม้สักโกเป็กมันเรื่องใหญ่
หากไปตามอ่านรีวิวเรื่องย่อ ก็คงเล่าแบบดาด ๆ ว่าราสโคลนิคอฟทนความจนไม่ได้ เลยต้องไปฆ่าหญิงชราเจ้าของร้านรับจำนำ แต่ผมอยากจะชวนคุยถึงรายละเอียดที่เป็นประเด็นในวรรณกรรมเรื่องนี้ต่างหาก คือการปลิดชีวิตใครบางคนทิ้ง มันเป็น 1 ในบาปที่น่ากลัวที่สุดมากเลยนะ. สังคมคนเราทุกยุคทุกสมัยมีการนอกใจ มีการโกหก เป็นบาปส่วนใหญ่ในสังคมที่ทุกวันนี้แทบจะมองกันว่าเป็นเรื่องปกติ แต่การปลิดชีวิตคน มันหนักหนาที่สุดจริง ๆ
ผมว่าผมมองเห็นบางสิ่งที่เหมือนกันระหว่างราสโคลนิคอฟ กับตัวเอกในความฝันของคนไร้สาระ ทั้งสองเหมือนกัน คือต้องการปลิดชีวิต. ราสโคลนิคอฟต้องการปลิดชีวิตหญิงชราเพราะมองเธอเป็นหมัดแมงที่ไม่สลักสำคัญ
ส่วนตัวเอกในความฝันของคนไร้สาระ ต้องการปลิดชีวิตตนเอง เพราะเชื่อว่าตนเองไม่สลักสำคัญ. เอาละมี 2 ประเด็นย่อยให้เราเห็น คือ /เราเอาเกณฑ์อะไรตัดสินว่าชีวิตใครมีความสลักสำคัญมากน้อยแค่ไหน / กับ / ราสโคลนิคอฟกับตัวเอกในความฝันของคนไร้สาระ แม่งคิดกันนานมาก คิดกันนานชิบหายตามประสาวรรณกรรมรัสเซีย คือก่อนที่มึงจะบ้าทำอะไรห่าม ๆ ทำอะไรที่แม่งเป็นบาป มึงจะคิดแล้วคิดอีก ซัฟเฟอร์จนบรรยายออกมาได้1-2หน้ากระดาษ/ และสุดท้ายทั้งสองก็ตัดสินใจทำลงไป ตัดสินใจปลิดชีพ
กลับมามองที่ราสโคลนิคอฟกันดีกว่า ผมจะพยายามยกเหตุผลล้านแปดประการมาอธิบายว่าทำไมต้องถึงกับปลิดชีวิตหญิงบริสุทธิ์ให้ตายเลยเหรอ
ความยากจนคงจะเป็นเหตุที่ทำให้เขาก่อเกิดความคิดวิปลาศขึ้นมา ราสโคลนิคอฟเขียนบทความลงวารสาร เกี่ยวกับคนสองประเภท ประเภทแรก คือประเภทพวกอนุรักษ์นิยม พวกนี้จะเชื่อโลกเก่ารวมถึงศีลธรรมแล้วทำตาม ๆ กันมา จึงไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมากนัก แต่เพราะความที่อยู่แต่กับโลกเก่านี้เอง มันจึงขัดกับความก้าวหน้า อันซึ่งนั่นคือประเภทที่สอง ประเภทที่คิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษกว่าใคร ก้าวหน้าไปเสียทุกอย่าง ประเภทที่ว่าเราจำเป็นต้องทำบางอย่างเพื่อที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้าในสังคม นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ผมว่าผมมองไอเดียของดอสโตเยสกีออกว่า ในความหัวก้าวหน้ามันไม่มีลิมิตแบบที่พวกอนุรักษ์นิยมมันลิมิตเอาไว้ ไม่ว่าแม้คุณจะเป็นคนหัวประเภทไหน ๆ ก็ตาม ผมรู้ว่าคุณก็อยากให้โลกมันดีขึ้น. แต่คนประเภทที่สองที่ยกยอความก้าวหน้าตามที่ผมกล่าว ลิมิตของศีลธรรมของคนพวกนี้อยู่ไหนกัน ? หากการค้นพบของนิวตันจำเป็นต้องแลกด้วยชีวิตคน 1 คน ร้อยคนก็ต้องแลกไปสิ ในเมื่อการค้นพบของนิวตันมันยิ่งใหญ่และช่วยเหลือคนอีกเป็นล้านคนบนโลกได้ ( ยกมาจากโคว้ตในหนังสือ ). เพราะงั้นดอสโตเยสกีจึงให้ราสโคลนิคอฟเป็นตัวแทนของคนประเภทที่สอง คนพิเศษคนนั้น
คนพิเศษที่จะไม่อยู่ภายใต้ศีลธรรมจากพวกโลกเก่าอีกต่อไป คนพิเศษที่ยอมทำทุกอย่างเพื่ออรรถประโยชน์ ไม่ว่าจะแลกด้วยการหลั่งเลือดก็ตาม
นั่นก็เป็นเพียงความคิดอันตรายในหัวของราสโคลนิคอฟ จนกระทั่งจุดกระแทกแรงก็มาถึง ดูเนีย น้องสาวของราสโคลนิคอฟกำลังจะแต่งงานกับเจ้าลูชิน ปีเตอร์ เปโตรวิช. ราสโคลนิคอฟมองเจ้าลูชินออกตั้งแต่หัวจรดตีนว่าไอ่นี่ แม่งเหี้ย555555. แม่งคือจอม gaslight / manipulating มาก ถามว่าเหี้ยขนาดไหนคือมันอยากจับดูเนียที่ยากจนมาเป็นภรรยา เพื่อที่จะให้ดูเนียซาบซึ้งในใจเจ้าลูชินว่าเป็นผู้มาโปรด เพราะลูชินมันมีกะตัง. ราสโคลนิคอฟโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เขาน้อยใจในทรัพย์สินที่ตนมีน้อยจนทำให้น้องสาวเขาต้องขายตัวเองเพื่อค้ำชูครอบครัว ประกอบกับทฤษฎีคนพิเศษในหัวเขาก็มีอยู่แล้ว นี่ยังไม่รวมว่าวันก่อนเขาเพิ่งไปกินเหล้าแล้วไปเจอเจ้ามาร์มาเดลอฟเล่าชีวิตอันแสนรันทด " สิ้นจนหนทาง " ระดับที่ว่าฟรีไมค์ได้ 4 - 5 หน้ากระดาษ. นั่นแหละทุกอย่างมันประเดประดังทำให้ราสโคลนิคอฟรู้สึก *สิ้นจนหนทาง* จริง ๆ. จนเขาตัดสินใจวางแผนเป็นอย่างดี เพื่อไปปลิดชีพหญิงชราคนนั้น
คือมันคิดผิด คิดเข้าข้างตัวเอง คิดหาเหตุผลร้อยแปดประการเพื่อมาสนับสนุนทฤษฎีคนพิเศษของตัวเอง นอกจากนี้ในท้ายเล่มเขายังเปรียบเปรยอีกว่าการกระทำของเขาไม่ต่างจากนโปเลียนหรอก นโปเลียนผู้คร่าชีวิตคนในสงครามนับไม่ถ้วน ยังได้รับการสรรเสริญ . แล้วทำไมเขาผู้ซึ่งปลิดชีพหญิงชราที่ทำตัวไร้สาระรอวันตายไปวัน ๆ เป้นเพียงหมัดแมง. ทำไมเขาจะปลิดชีพเธอไม่ได้.
เขาควรได้รับการสรรเสริญเหมือนนโปเลียนสิ.
แต่เขาคงลืมไป เขาไม่ได้เป็นผู้คุมอำนาจดังนโปเลียน
ผลคือ แน่นอนว่า แม่ง ไม่ได้เป็นแบบที่แม่งมโนไว้เลย ช้ำใจอีกคืออย่างที่ผมพูดไว้คำแรก มนุษย์แม่งเข้ากันได้กับศีลธรรมสูงสุดในใจอยู่แล้วเว้ยว่าการฆ๋าคนเนี่ย แม่งผิด จากตอนแรกที่ราสโคลนิคอฟจะบ้าแหล่ไม่บ้าแหล่ แม่งยิ่งดูเหมือนคนบ้าไปอีก เดี๋ยวโกรธเดี๋ยววีนเดี๋ยวอยากอยู่คนเดียว อาชญากรรมเกิดขึ้นแล้ว การลงทัณฑ์ได้เกิดขึ้นแล้ว การลงทัณฑ์ได้เกิดขึ้นในใจเขา เขารู้สึกผิด เขาอยากหนี เขาไม่อยากยอมรับโทษ
สิ่งที่ตอกย้ำให้ราสโคลนิคอฟหลุดโลกไปอีกคือ พอมันรู้สึกผิดมันก็เลื่อนลอย พอเลื่อนลอยแม่งก็ไปหาเพื่อนสมัยเรียนชื่อ ดมิตรี หรือ รัสซูมิฮิน เจริญเถอะพอทักดมิตรี ดมิตรีบอก มึงมาทำงานแปลหนังสือเป็นเพื่อนกูหน่อย เนี่ยมีค่าจ้างให้ด้วยนะ . ซ้ำไปกว่านั้นวันถัดมา ดูเนียกับแม่ได้เข้ามาเยี่ยมราสโคลนิคอฟถึงห้อง พร้อมกับพกสตางค์มาให้ราสโคลนิคอฟด้วย
จำกันได้ไหมว่าราสโคลนิคอฟตัดสินใจฆ่าหญิงชราเพราะหมดสิ้นหนทาง
คือจริง ๆ มึงไม่ต้องการฆ่าคน แต่มึงต้องการเงิน
และการได้เงินมา มึงไม่ต้องฆ่าคนก็ได้มั้ย...
แล้วดูสิ ? หลังจากอาชญากรรมได้กำเนิดขึ้นแล้ว เขากลับยังเห็นว่าโลกใบนี้แม่งยังมีโอกาสให้เขาอยู่. ไอ่ความรู้สึกหมดสิ้นหนทางเนี่ยมันหมดสิ้นจริง ๆ หรอ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ หนทางมันไม่หายไปไหนหรอก. คนที่สิ้นหนทางจริง ๆ คือหญิงชราที่กำลังจะตายเพราะโดนคนอย่างนายเอาขวานจามใส่ไม่ยั้งเนี่ยแหละราสโคลนิคอฟ
"คงจะดีถ้าไม่รักใคร และไม่มีใครรัก" นี่คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นในช่วงท้าย ๆ ของเรื่องที่เกิดกับราสโคลนิคอฟ อันเนื่องจาก ดิมิตรี ดูเนีย แม่ โซเนีย ( ลูกของมาร์มาเดลอฟ ) คนพวกนี้เป็นห่วงราสโคลนิคอฟมาก เพราะคนที่รู้สึกผิดแม่งพฤติกรรมมึงเหมือนคนหลุดตลอดเวลาอะ จริง ๆ ราสโคลนิคอฟอาจจะไม่หลุดขนาดนี้ ถ้าเกิดเขาถือตัวเองเป็นคนประเภทที่สองจริง ๆ แต่อย่างที่ผมบอก มนุษย์มันมีความงามทางศีลธรรมในใจมากที่สุดอยู่แล้ว...
และความเป็นห่วงเป็นใย ความรักจากคนรอบข้างโดยเฉพาะจากโซเนียนี่แหละที่ทำให้เขาเริ่มคิดได้ แต่จุดแตกหักที่ทำให้เขาคิดได้มากจริง ๆ คือการมอบตัวของนิโคไล คือ ตำรวจแม่งหาทำใส่ร้ายผิดคน นิโคไลเลยโดนจิตวิทยาของพัคเฟรี่เล่นงานจนมึน คิดว่าตัวเองเป็นฆาตกร เฉย
และจุดแตกหักสำคัญคือ อาร์อาดี้ สะเวียดริกายลอฟ
สะเวียดริกายลอฟคือ คนที่เคยแอบชอบ ดูเนีย น้องสาวของราสโคลนิคอฟก็แล้วกัน เรื่องสั้น ๆ คือมันชอบดูเนียม้าก มาก มันเลยวางยาพิษมาร์ตาตอฟน่า ภรรยาของตน เพื่อที่จะเอาดูเนียทำเมียแทน . ในเรื่องเราจะได้เห็นการประชันฝีปากระหว่างสะเวียดริกายลอฟ กับ ราสโคลนิคอฟ เมื่ออาชญากรผู้ทำผิดคือการปลิดชีพคนเช่นกันได้มาคุยกัน
แต่ผลลัพธ์กลับต่างออกไป
ในตอนที่ราสโคลนิคอฟทนไม่ไหวจนไปสถานีตำรวจ กำลังจะมอบตัว แต่แล้วใจดันปอดขึ้นมา เขากลับได้ยินเสมียนคุยกันว่า เมื่อคืนมีข่าวสะเวียดริกายลอฟยิงตัวตาย
เมื่อพวกเขาทั้งสอง ไม่ใช่คนพิเศษที่มีอภิสิทธิ์เหนือชีวิตคนอื่น อย่างที่พวกเขาคิด จำต้องทนกับความรู้สึกผิดไปตลอด ทางเลือกที่จะหนีความรู้สึกผิดนี้
ไม่มอบตัว ก็ปลิดชีพตนเอง เพื่อจะได้ไม่รู้สึกผิดอีกต่อไป
สะเวียดริกายลอฟ เลือกจะหนี
ราสโคลนิคอฟ เลือกจะยอมรับ
เมื่อราสโคลนิคอฟยอมรับ การลงทัณฑ์ทางกฎหมายก็เริ่มต้นขึ้นจริง ๆ เขาถูกส่งไปที่คุกไซบีเรีย
แต่จะว่าไปแล้วมันมีนัยยะแอบแฝง กับคำว่า ลงทัณฑ์
ผมเล่นเกมจนเกรดตก พ่อผมลงโทษผม ล็อคคอมไม่ให้เล่นเกม 1 เทอม
ผมโดนลงโทษ แต่สิ่งที่ผมได้กลับมาคือเวลาอ่านหนังสือ จนกลับมาเรียนเก่งได้อีกครั้ง
ราสโคลนิคอฟถูกลงทัณฑ์ แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่เปลี่ยนความคิดตัวเอง
เขาก็ยังดื้อด้าน คิดว่าเพราะเขาไม่ได้เป็นผู้คุมอำนาจดังนโปเลียน เลยมีข้อจำกัดให้เขายังเป็นคนพิเศษตามทฤษฎีของเขาไม่ได้
แต่จุดพลิกผันก็คงตอนที่โซเนียไปเยี่ยมเขาที่คุก ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหน แต่เขาเองก็เริ่มมีความรู้สึก รัก กลับมาในหัวใจ
ถ้าแค่รู้จัก รัก เสียแต่แรก ก็คงไม่มีความคิดที่อยากจะปลิดชีพใครหรอก
ความรู้สึกของราสโคลนิคอฟก็คงจะท่วมท้นมาก ผลสัมฤทธิ์จากการลงทัณธ์ นัยยะมันอยู่ในฉากนี้เอง คนเราต้องโทษลงโทษเพื่อให้ได้ตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิมกลับมา มันคือการนำข้อผิดพลาดในอดีดกลับมาพัฒนาตัวเอง
นั่นคือฉากที่ราสโคลนิคอฟตัดสินใจหยิบไบเบิ้ลในใต้หมอนออกมาอ่าน
แสงสว่างจะถูกจุดขึ้นมาใหม่ ในใจอาชญากรคนนี้อีกครั้ง
//// แต่จะว่าไป ผมว่าไอ่ทั้งเรื่องเนี้ยมันสะท้อนชีวิตของดอสโตเยสกีทั้งนั้นแหละ ก็แต่ก่อนที่ดอสโตเยสกีเคยเป็น 1 ในขบวนการหัวรุนแรงฝ่ายซ้าย เขาก็ต้องมีแนวคิดคนพิเศษตามทฤษฎีของราสโคลนิคอฟนั่นแหละ เขาคิดว่าการเป็นนักสังคมนิยม มันคือคนพิเศษที่ยิ่งใหญ่กว่าชาวบ้าน คือคนพิเศษมีที่มีสิทธิ์ในการพรากทรัพย์สิน ชีวิต ของคนบางคนในสังคม เพื่อแลกกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ( เพื่อ *สังคม* ) กลับมา แต่พอโดนการลงทัณฑ์จากพระเจ้าซาร์ ก็เลยกลับตัวกลับใจได้ที่ไซบีเรียในที่สุด ////
ไม่ต้องไปพูดถึงว่าคนเราควรจะเป็นซ้ายหรือเป็นขวาหรอก
ขอแค่รักษาศีลธรรมอันสูงส่งในใจเราไว้ก็พอ ขอแค่ไม่หาข้ออ้างมากมาย มาหักล้างความดีในใจ ก็ พอ
ขอบคุณครับ
https://image.nostr.build/613b07def8f0afa6f1dddd2ac0f5841a6f35b750621626a9afbf2f86b3f301ad.jpg