-
ผมจำได้ว่าหัวใจเต้นแรงแค่ไหนตอนเปิดประตูเข้าไปในสตูดิโอ **RightTalk** สิ่งแรกที่ปะทะตาคือแสงไฟเจาะลงมาเป็นวงใหญ่ ไม่ต่างจากเวทีคอนเสิร์ต ผมรู้สึกได้ทันทีว่าความเย็นจากเครื่องปรับอากาศในห้องส่งไม่ได้ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายสักเท่าไหร่ ตอนนั้นผมพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็น แต่มันยากเอาเรื่องเมื่อคิดว่ามีคนดูทางบ้านอีกมากรอติดตาม **คุณซุป** พิธีกรของรายการ เดินมาทักผมด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ผมค่อย ๆ ตั้งสติได้ เขาเชื้อเชิญให้นั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดไว้ตรงกลางฉาก แถวหลังมีทีมงานเดินขวักไขว่ จิงโจ้, อาร์ม, เทนโด้ และอีกหลายๆ คนที่คุ้นตากันดี บรรยากาศออกกึ่งกันเองกึ่งเป็นทางการ ผมไม่ได้อธิบายอะไรมาก ก่อนที่เสียงผู้กำกับจะให้สัญญาณเริ่ม คุณซุปหย่อนคำถามเล็ก ๆ ให้ผม “พร้อมนะครับ?” ผมพยักหน้านิด ๆ คิดในใจว่ามันคงไม่มีคำว่า “พร้อมจริง” ได้หรอก แต่ยังไงก็ต้องไปต่อ... ![image]( https://image.nostr.build/b188a744a9a3e4820dc76fd8c1d468598e9ae0b9894ad282c2ce6ffb4a0794c4.jpg) “คุยทุกเรื่องที่ใช่กับ RightTalk” นั่นคือประโยคแรกที่ผมได้ยินในหูฟัง ขณะไฟสปอร์ตไลต์สาดสว่างทั่วเวทีอีกครั้ง คุณซุปเอ่ยแนะนำตัวผมว่าเป็นคนที่ผ่านประสบการณ์ **สงคราม Blocksize** มาตั้งแต่ยุคเปลี่ยนผ่าน และพ่วงด้วยข่าวว่าตอนนี้ราคา Bitcoin ทะลุหลักแสนดอลลาร์แล้ว ผมยืดหลังเพื่อกลั้นความตื่นเต้น แต่ก็ไม่วายตัวเกร็งเล็กน้อย เขาหันมาทางผมพลางกล่าวอย่างเป็นกันเอง “**_คุณแชมป์ PIGROCK_** สบายดีไหมครับ?" "รู้สึกยังไงบ้างครับกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มันต่างจากสมัยก่อนลิบลับ?” ผมเผลอกัดริมฝีปากเพราะความประหม่าหลุดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ผมยังคุมโทนได้ จึงตอบไปว่า "ผมชื่อแชมป์ครับ.. เป็นแค่นักวาดดิจิทัลธรรมดา ๆ ที่จู่ ๆ ก็ได้อยู่ข้าง ๆ Jakk Goodday พี่ชายจอมยิงใยผู้เปลี่ยนชีวิตผม ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ผมคงไม่รู้จักคำว่า UASF หรือ SegWit ขนาดนี้" ผมเห็นคุณซุปยิ้มมากขึ้น แล้วก็พยักเพยิดให้ผมพูดต่อ “ว่ากันว่าตอนนั้น Bitcoin มีแนวโน้มแตกออกเป็นหลายสาย เล่าหน่อยสิครับ ว่าพี่อยู่ในจุดไหน?” ผมถือไมโครโฟนแน่นขึ้นตอบตามจริงว่า จุดเริ่มต้นมาจากความขัดแย้งว่า Blocksize ควรจะใหญ่ขึ้นหรือไม่ จนกลายเป็นสงครามขนาดย่อมบนฟอรัม Bitcointalk และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งผมเป็นคนที่ไม่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีเลย แต่โชคดีตรงที่เจอ Jakk คอยเปิดแผนที่ให้เห็นภาพรวมว่าใครอยู่ฝ่ายไหน ผมยังเล่าให้ผู้ชมฟังว่า... ครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า **UASF** ก็ยอมรับว่างงอยู่เหมือนกัน แต่มันก็เป็นจุดที่ทำให้ผมเข้าใจว่า Bitcoin ไม่ได้มีเจ้าของเป็นตัวบุคคล แถมยังเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นประชาชนโหนดรายย่อยจะมาคุมเกมสั่งนักขุด _“ถ้าไม่รองรับ SegWit ก็ไม่รับบล็อกกันเลย”_ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเองก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ ซุปหันไปมองกล้องด้วยสีหน้าน่าสนใจ พร้อมสรุปสั้น ๆ ก่อนพักเบรกว่า “โอเค.. งั้นตอนหน้ามาคุยกันเรื่อง UASF และ SegWit กันชัด ๆ ว่ามันเปลี่ยนแปลงชุมชน Bitcoin ได้ขนาดไหน ห้ามพลาดนะครับ!” ผมก็ยิ้มรับแล้ววางไมค์ คิดในใจว่ายังมีอีกเยอะที่ผมอยากเล่า—ทั้งความวุ่นวายของปี 2017 และเรื่องราวของ Jakk ที่เป็นแหล่งข้อมูลล้ำค่าในชีวิตผม ![image]( https://image.nostr.build/df088f6a89166a816e689e16867245a7893793831f83b534a012824f7aeae3e2.jpg) ผมกลับเข้ามานั่งบนเก้าอี้ในสตูดิโอ RightTalk อีกครั้งหลังพักเบรกสั้น ๆ พิธีกรซุปมองสบตาผมราวกับบอกเป็นนัยว่า.. ตอนนี้ได้เวลาเล่าช่วงสำคัญที่ทุกคนรอคอย ผมสูดลมหายใจเบา ๆ แล้วพยักหน้าอย่างมั่นใจ ถึงจะไม่ใช่นักเทคนิคโดยกำเนิด แต่ผมก็พร้อมจะบอกสิ่งที่ประสบมาในช่วงปี 2017 ซึ่งในตอนนั้น แค่ได้ยินคำว่า UASF ครั้งแรกผมยังสับสนแทบแย่ว่ามันคืออะไร “พี่ว่า UASF เหมือนการปฏิวัติครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นขณะที่กล้องจับภาพเต็มจอ “ตอนนั้นกลุ่มโหนดรายย่อยลุกขึ้นมาประกาศชัด ๆ ว่า ถ้านักขุดไม่สนับสนุน SegWit พวกเขาจะไม่รับบล็อกเหล่านั้นอีกต่อไป เป็นภาพที่พี่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า... **เสียงของคนตัวเล็ก ๆ** จะดังได้ขนาดนี้ เหมือนชาวบ้านรวมตัวท้าทายอำนาจจักรวรรดิไม่มีผิด” ผมหันไปเห็นประกายตาในคุณซุป เขาขยับไมโครโฟนเล็กน้อย “แบบนี้ก็ต้องมีเรื่องขัดแย้งกับพวก Hashrate ใหญ่ใช่ไหมครับ ผมได้ยินชื่อ Bitmain กับ Roger Ver โผล่มาบ่อยมากตอนนั้น” ผมพยักหน้าแล้วหัวเราะน้อย ๆ “ใช่ครับ พวก Big Block มองว่าต้องขยาย Blocksize สายตรงไปเลย จะได้จุธุรกรรมได้เยอะ ค่าธรรมเนียมไม่โหด" "ส่วนอีกฝั่งยืนยันว่าควรใช้ SegWit มาช่วยแทนโดยไม่ต้องขยายบล็อกจริง ๆ ประเด็นนี้ใหญ่พอจะทำให้เกิดการแตกสายกลายเป็น **_Bitcoin Cash_** ในวันที่ **1 สิงหาคม 2017** นั่นแหละครับ” ผมเล่าย้อนภาพในหัว... ช่วงนั้น Jakk บอกไว้อย่างชัดถ้อยชัดคำว่า _“พวกเขาคงแยกตัวได้ แต่อย่าหวังว่าจะมาแทน BTC หรืออะไรใหญ่โตนัก รอดูไปเถอะ เดี๋ยวก็เห็นเอง”_ มันฟังดูเหมือนคำทำนายที่ห้าวหาญ แต่สุดท้ายก็เป็นจริง ที่ผมตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ SegWit เองก็ไม่ใช่แค่จัดการปัญหา Transaction Malleability หากยังเปิดทางให้เทคโนโลยีในอนาคตอย่าง Lightning Network เกิดขึ้นมาได้อีก ตอนแรกหลายคนเรียกกันว่าเป็นแค่ **_‘ไอเดียบนกระดาษ’_** แต่ตอนนี้ (ปี 2025) กลับกลายเป็นเลเยอร์สำคัญที่ทำให้ผมโอนเงินข้ามประเทศได้แทบจะฟรีในเสี้ยววินาทีจริง ๆ “พี่เองยังคิดไม่ถึงว่ามันจะสำเร็จขั้นนั้น” ผมหัวเราะก่อนบอกต่อ “ตอนแรกที่ SegWit เปิดใช้งาน คนจำนวนหนึ่งยังสงสัยด้วยซ้ำว่ามันจะแก้ปัญหาได้ไหม แต่พอมี UASF โหนดรายย่อยก็กดดันนักขุดจนต้องยอม มันเป็นความเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่าคนมีอำนาจโหวตแบบไร้ศูนย์กลางมากจริง ๆ” “แล้วเรื่องราคา Bitcoin ในปีนั้นล่ะครับ?” ซุปจับจังหวะได้ดี “2017 ถือเป็นปีที่ราคา BTC แตะสองหมื่นดอลลาร์ครั้งแรกเลยใช่ไหม แล้วตอนนี้ทะลุแสนไปแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ผมยกไหล่แล้วยิ้ม “ตอนนั้นพี่ก็ตื่นเต้นสุด ๆ ครับ เหมือนรถไฟเหาะกันทั้งตลาด แต่ใครจะคิดว่ามันจะไปได้สูงกว่านั้นอีกหลายเท่าตัว บางคนก็ปรามาสว่าเป็น _‘ฟองสบู่แตกแน่ ๆ’_ ส่วนคนเชื่อก็เชื่อสุดใจ" "ไม่ต่างจากประเด็นว่า BCH จะแทน BTC ได้ไหม ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว ทุกวันนี้ BCH ก็ยังอยู่ แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงหรือเชียร์แรง ๆ เหมือนในอดีต หลังเวลาผ่านไป ตลาดเลยเหมือนตัดสินว่า BTC ยังเป็นตัวหลักมากกว่า” “พี่รู้สึกอย่างไรกับคำทำนายของ Jakk ที่ว่า BCH ไม่น่ารอดยาว?” ซุปถามแทรก มุมปากมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นิด ๆ เหมือนอยากได้คำตอบที่สะใจ “พี่ขอเรียกเขาว่าเป็นคนมองขาดละกัน” ผมยิ้มพลางนึกหน้าตายของ Jakk “แกเป็นคนที่มองเกมเชิงเทคนิคและปรัชญาของ Bitcoin ได้คมมากนะครับ แกจะบอกเสมอว่า **‘ไม่มีใครเป็นเจ้าของ Bitcoin แท้จริงหรอก ตราบใดที่ชุมชนทั้งหมดไม่ยอมรับ ก็จบ’** " "จนถึงตอนนี้ พี่ยังรู้สึกทึ่งว่าทำไมแกถึงทำนายถูกหลายเรื่อง” ผมเห็นเวลาในหูฟังบอกใกล้หมดช่วงแล้ว จึงตบท้ายว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นมันสอนให้ผมรู้เรื่องประชาธิปไตยในระบบไร้ศูนย์กลาง ทุกฝ่าย—_ไม่ว่าจะนักขุด โหนด หรือผู้ใช้_—ต่างมีสิทธิ์ Fork ได้ แต่ไม่มีใครการันตีว่า Fork นั้นจะไปรอด ท้ายที่สุด **ตลาดต้องเป็นผู้ตัดสินเอง** และนั่นคือเสน่ห์ของ Bitcoin ที่ผมรู้สึกโชคดีที่ได้เข้าไปเห็นด้วยตาตัวเอง ซุปพยักหน้าแล้วยิ้มกว้าง หันไปมองกล้อง “โอเคครับ คุณผู้ชม วันนี้เราคุยกันเรื่อง UASF, SegWit, BCH, Lightning Network และความผันผวนของตลาดในปี 2017 ที่ต่อยอดมาถึง 2024 แบบพอหอมปากหอมคอ" "ต้องขอบพี่แชมป์ ‘PIGROCK’ ที่มาให้มุมมองสนุก ๆ พร้อมแง่คิดที่น่าสนใจมาก ๆ ไว้เจอกันใหม่ใน RightTalk กับผมและแขกรับเชิญท่านอื่น ๆ ไม่นานนี้” เสียงปรบมือดังขึ้นเบา ๆ ขณะที่ไฟบนเวทีค่อย ๆ หรี่ลงอีกครั้ง ผมปลดไมค์ออกจากเสื้อ สูดลมหายใจโล่ง ๆ พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคน แล้วคิดถึงคำพูดของ Jakk ในวันวานที่ฝังอยู่ในหัว > “สงคราม Blocksize แค่งานวอร์มอัพ โลกคริปโตฯ ยังมีอะไรให้ลุ้นอีกเยอะนะน้องชาย” ผมยิ้มเงียบ ๆ คิดว่ามันคงจริงอย่างที่แกว่า เพราะถ้า Bitcoin ไม่ใช่ของใครคนเดียว เราก็คงเห็นการเคลื่อนไหวอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ ![image]( https://image.nostr.build/2146bc8ec1c7796b07d61ea199f1632039cb29f0dc996c5b370b4b4846fd235c.jpg) ซุปทำท่าเกริ่นรอบสุดท้าย สบตากับผมแล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ชวนให้ผมรื้อฟื้นความทรงจำทั้งหมดที่เพิ่งเล่ามา “แล้วพี่คิดว่า... สิ่งที่ Bitcoin Cash กับ SegWit สอนเราเกี่ยวกับ Bitcoin คืออะไรครับ?” ผมยิ้มบาง ๆ สูดหายใจแล้วลองเรียบเรียงคำตอบในหัว ผมคิดถึงภาพที่ผ่านมา... ทั้งช่วงที่โหนดรายย่อยลุกขึ้นเรียกร้องสิทธิ์ UASF ทั้งวันที่ BCH แยกตัวอย่างอลังการ ตลอดจนเวลาที่ SegWit เปิดทางให้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้น ผมรวบทุกประสบการณ์ไว้ในประโยคเดียวก่อนพูด “สำหรับพี่นะ... สงคราม Blocksize หรือจะเรียกว่าการแตกแยกครั้งนั้น มันสอนให้เห็นว่าระบบนี้ไม่เคยเป็นของใครคนเดียวเลยนะครับ" "นี่แหละคือ **การกระจายอำนาจ** อย่างแท้จริง ใครจะฟอร์ก ใครจะทำอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายตลาดและชุมชนทั้งหมดนี่ล่ะที่เป็นคนตัดสินว่าเส้นทางไหนจะอยู่หรือไป" "เรื่องนี้ทำให้พี่ตระหนักว่าบางที... การขัดแย้งก็พาให้เทคโนโลยีมันพัฒนาไปอีกขั้นเหมือนกัน ตราบใดที่เราไม่ลืมสารตั้งต้นว่ามันคือ **ระบบเปิดที่ทุกคนเข้าถึงได้** ” ซุปนิ่งฟังแล้วผงกศีรษะเบา ๆ เหมือนยอมรับในประเด็นที่ผมว่า เขาหันไปทางกล้องและปิดรายการด้วยสไตล์ที่คนดูคุ้นเคย “วันนี้เราคุยกันหลายแง่มุมเลยนะครับ ตั้งแต่ UASF กับปัญหาความขัดแย้ง ไปจนถึงผลลัพธ์ของ SegWit, BCH และ Lightning Network" "ต้องขอบคุณพี่แชมป์ ‘PIGROCK’ มาก ๆ ที่มาแบ่งปันประสบการณ์อันเป็นประโยชน์ หวังว่าทุกคนจะได้ไอเดียกลับไปไม่มากก็น้อยนะครับ และนี่คือ RightTalk คุยทุกเรื่องที่ใช่ เจอกันตอนหน้าครับ!” เสียงดนตรีประจำรายการดังขึ้นอัตโนมัติ เป็นสัญญาณว่าการถ่ายทอดสดสิ้นสุดลง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่โล่งอกอย่างไม่ปิดบัง ทีมงานบางคนเดินเข้ามาขอบคุณพร้อมจับมือเบา ๆ ผมรู้สึกเหมือนเพิ่งยกภูเขาออกจากอกที่ได้ถ่ายทอดสิ่งที่เคยแบกไว้มานาน ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคบล็อกเชน แต่เป็นการขบคิดด้วยว่า ในโลกที่ทุกคนเรียกหาเสรีภาพทางการเงิน ไม่มีชัยชนะของใครที่จีรังได้นาน ถ้าผู้ใช้ทั้งหมดไม่ยอมรับ ผมเผลอมองขึ้นไปบนไฟสปอร์ตไลต์อีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้รู้สึกว่ามันจ้าจนแสบตาเหมือนช่วงเริ่มรายการ แต่กลับรู้สึกว่ามันอบอุ่นดี ผมยิ้มให้ตัวเองเล็กน้อย ทบทวนว่านี่คงเป็นบทเรียนที่ดีว่าถึงเราจะเป็นเพียงโหนดเล็ก ๆ หรือผู้ใช้งานตัวเล็ก ๆ แต่ในระบบกระจายอำนาจแบบ Bitcoin มันก็มีสิทธิ์เปล่งเสียงได้ และบางครั้งก็อาจเปลี่ยนกระแสทั้งโลกได้เลย ถ้านั่นไม่ใช่คำจำกัดความของ **“เสรีภาพ”** ผมก็ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรแล้วล่ะ ![image]( https://image.nostr.build/ba7004c073b1ac9565b9d72ac0b4e5caac9fa918ebe8b69aa6f89961c8170343.jpg) ## End credit ผมนั่งพักหลังกองอัดรายการแทบไม่ได้หายใจเป็นชิ้นเป็นอัน พิธีกรสุดกระตือรือร้นอย่างซุป เดินดุ่ม ๆ มาหาผมพร้อมแววตาวิ้งวับ ก่อนจะรั้งเก้าอี้มาเบียดติดข้างผม ถึงแม้ไฟสปอตไลต์จะดับไปแล้ว แต่เขายังดูเหมือนพร้อมลุยถามต่อไม่หยุด “พี่แชมป์” เขาเอ่ยชื่อผมแบบลากเสียงยาว “คอผมมันคันยุบยิบ มีเรื่องต้องเม้าท์ต่อจริง ๆ นะพี่ ผมกั๊กไว้ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มรายการละ” ผมเลยหัวเราะพลางเท้าคาง “ไหนว่ามาสิวะ ซุป ใจคอนายจะไม่ให้พี่ไปเข้าห้องน้ำเข้าห้องท่าก่อนเลยเหรอวะ?” ผมพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งหยอกกึ่งประชด “ฮ่า ๆ โทษทีพี่ ผมนี่มันขี้สงสัย” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “คือเรื่อง **‘The One Who Claims to Be Satoshi’** น่ะ… ก็ **Craig Wright** ไงล่ะพี่ ผมสตั๊นกับเขามานาน เห็นว่าฟ้องชาวบ้านเขาไปทั่ว เห็นมีข่าวว่าขู่ฟ้องใครก็ตามที่พูดว่าเขาไม่ใช่ Satoshi ผมล่ะขำไม่ไหว!” ผมยักไหล่ “เอาตรง ๆ นะ... พี่มองว่าเขาเป็น _ราชาสายปั่นของแท้_ รู้จักดึงกระแสเก่งเป็นบ้า ส่วนจะเป็น Satoshi จริงหรือเปล่า? พี่ไม่เชื่อเลยสักเสี้ยว ยังไงพี่ก็ว่ามันดู ‘_เฟค_’ ไปหมด” ซุปตบโต๊ะเบา ๆ “โอ๊ย! ใช่เลยพี่! ผมก็ดูละครฉาก **‘พิสูจน์ Private Key’** แล้วแทบขำกลิ้ง" "แต่พี่รู้ไหม? ตอนแรกดราม่าก็แรงเพราะหลายคนคิดว่าบางทีแกอาจจะเป็นจริง ๆ แต่หลักฐานไม่ชัด สุดท้ายคนในชุมชน _‘กระซวก’_ จนหลุดหมดว่าใช้เทคนิคปลอมลายเซ็น” ผมพยักหน้า “ยิ่งไปกว่านั้นนะ... ตอนเขาแยกสายไป **Bitcoin SV** อ้างว่าสานต่อ **‘Satoshi’s Vision’** นายลองดูตอนนี้สิ มีกี่คนพูดถึง BSV... " "แทบไม่มี... มันก็ตลกดีนะ โลกคริปโตนี่ ถ้าไม่มีคนยอมรับ ต่อให้เป็น Satoshi ยังไงก็แพ้ตลาด” “โอ้โห.. พี่พูดได้ถูกใจมาก” คุณซุปแหงนหน้าหัวเราะลั่น “นี่ถ้าพี่คนนี้อยู่ต่อหน้าคงเถียงเขาร้อนเป็นไฟเลยนะ แต่เอาจริง ถ้าอยู่ดี ๆ เขาพิสูจน์ได้ว่าเป็น Satoshi ขึ้นมาจริง ๆ พี่ไม่ช็อกเหรอ?” ผมยิ้มพลางยักคิ้ว “ช็อกนิดหน่อยนะ… แต่มันคงไม่เปลี่ยนอะไรหรอก เพราะ Bitcoin น่ะไปไกลเกินกว่าตัวบุคคลแล้ว ใครจะเป็น Satoshi ก็เรื่องของเขา พี่ถือคติว่า **BTC ไม่ต้องการ ‘เจ้านาย’** อีกแล้ว ตอนนี้มันเป็นของทุกคนบนโลกต่างหาก” **"We're all Satoshi เคป่ะ?"** “สุดยอด!” ซุปตบมือถูกใจใหญ่ “ผมก็คิดเหมือนกัน ผมแอบยกให้พี่เป็นปรมาจารย์ทางความคิดเรื่องนี้เลยนะเนี่ย” "มึงก็อวยเกินไป.. ไอ้นี่" ผมรีบปัดคำชมบ้า ๆ นั่นไปทันที พูดจบเขาก็กำลังจะบอกอะไรต่อ แต่ทันใดนั้นประตูสตูดิโอเปิดออกแผ่ว ๆ เผยให้เห็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง คิ้วไม่เข้มเท่าไหร่ แต่งตัวไม่เป็นทางการสีเข้ม ก้าวเข้ามาแบบไม่รีบร้อน “ตายล่ะพี่แจ็ก!” คุณซุปอุทานเบา ๆ ก่อนสะดุ้งตั้งท่าเหมือนเจอลูกพี่ใหญ่ ผมเองก็ตาโตนิดหน่อย “โผล่มาเงียบ ๆ ระวังผมช็อกตายนะ” คนที่เข้ามาคือ Jakk Goodday ที่ผมเคารพและเกรงใจมาตลอด.. และใช่เลย เขาคือ Co-founder ของ Right Shift ตัวจริง เสียงจริง “โย่ สองหนุ่มเม้าท์อะไรกันอยู่ กลิ่นดราม่าลอยมาถึงนอกห้องเลยนะ” เขายิ้มยั่ว พร้อมวางแก้วคราฟท์เบียร์ของเขาบนโต๊ะใกล้ ๆ “พี่แจ็ก ขอโทษครับ ผมก็แค่คันปากเรื่อง Craig Wright” ซุปรีบบอก พยายามวางมาดพิธีกรสายยียวนเหมือนเดิม แต่ผมเห็นหลังตาเขายังกระพริบบ่อยแปลก ๆ “ซุปเอ๊ย.. ขี้เม้าท์ตั้งแต่สมัยฝึกงานจนตอนนี้เป็นพิธีกรระดับประเทศก็ไม่เปลี่ยน” Jakk ยักคิ้ว เขามีเสียงเรียบแต่น่าฟัง “แต่ดีนะ... เรื่อง Craig Wright" "เนี่ย... พี่เองก็ขำทุกทีที่ได้ยินว่าพยายามฟ้องคนนู้นคนนี้ว่า _‘เธอดูถูกว่าฉันไม่ใช่ Satoshi_’ โอ๊ย มุกนี้แม่งใช้มากี่ปีแล้วก็ไม่รู้” ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ “ถ้าพี่ว่าแล้วมันไม่หยาบไป ก็ช่วยกัดเพิ่มให้หน่อย ผมว่าต้องมีคำเจ็บ ๆ ของพี่แจ็กแน่ ๆ” Jakk หรี่ตาเล็กน้อย... “ถ้าผมพูดแบบเจ็บ ๆ จริงก็เกรงจะโดนฟ้องเหมือนกันนะ” เขาทำท่ายกแก้วเก๊กฮวยลึกลับขึ้นจิบ “แต่เอาเป็นว่า… ตลาดไม่เคยโกหกใคร โค้ดก็ไม่เคยโกหกใคร ใครที่เรียกตนเองเป็น Satoshi หรือพระเจ้าคนไหนก็ตาม ถ้าทำให้คนยอมรับไม่ได้ มันก็จบตรงนั้นละ” ซุปหัวเราะก้าก “ว้าว! ตรงกว่าผมอีก! 5555" "นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพี่ถึงเป็นหัวโจกได้ใช่ไหม สายบวกแบบตอกหมุดเลย” Jakk หันมาทางผม “แต่เอาจริง พี่ก็ respect ในความปากแจ๋วของคุณซุปเค้านะ ถ้าเจอ Craig Wright ตัวเป็น ๆ เมื่อไหร่ บางทีอาจจะสนุกกว่าที่คิด” ผมกับคุณซุปหันมาสบตากันแล้วระเบิดหัวเราะพร้อมเพรียง “ไม่เอา ไม่เจอดีกว่า ผมขอความสงบสุขในชีวิต!” คุณซุปว่า Jakk วางแก้วเก๊กฮวยลงบนโต๊ะ กระตุกยิ้มตรงมุมปากอย่างคนมั่นใจ “ขอจบด้วยโควทหนึ่งละกัน ใครอยากเป็น Satoshi ก็เชิญเป็น แต่จำไว้ว่า…" **"ผู้ชนะที่แท้จริง ไม่ได้ชนะเพราะได้สวมมงกุฎ หากแต่ชนะเพราะผู้คนยอมรับให้เขาสวม และ Bitcoin ก็แสดงให้เราเห็นแล้วล่ะ ว่าตัวตนแท้ ๆ ของมันไม่ต้องพึ่งใครมาคุมบังเหียนสักคนเดียว”** ผมกับคุณซุปนิ่งไปครู่สั้น ๆ ก่อนหัวเราะเบา ๆ รับคำพูดคมคายเสียดสีในแบบของ Jakk Goodday “โอเคครับพี่แจ็ก นี่สินะ Signature Quote ที่เราคอยตามหา!” คุณซุปพูดตบท้าย ท่ามกลางเสียงเก็บอุปกรณ์ของทีมงานที่ใกล้จะเลิกงานเต็มที ผมเองยักไหล่แล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ “เอ้า! ปิดสตูแล้วดีกว่า เดี๋ยวเราจะโดนปิดไฟตัดน้ำไม่รู้ตัวนะครับพี่แจ๊ก” “เออ ๆ รีบปิดสตูเถอะ” Jakk ตอบเรียบ ๆ แต่สายตายังฉายแววเจ้าเล่ห์หน่อย ๆ “ไว้เจอกันรอบหน้า อย่าเผลอไปปั่นจนโดนฟ้องกันเองล่ะ ฮ่า ๆ” และนั่นก็เป็นฉากสั้น ๆ ที่สามเราปิดท้ายกันแบบเฮฮาและมีสาระนิด ๆ ทิ้งประเด็นว่าบางครั้งในโลกคริปโต คำพูดของใครสักคนอาจสั่นสะเทือนได้ แต่ตอนจบจริง ๆ ก็ต้องดูว่าชุมชนยอมรับมากน้อยแค่ไหน… Craig Wright จะอ้างตัวเป็น Satoshi กี่ครั้งก็ได้ แต่ถ้าโลกไม่เชื่อ... นั่นก็อาจเป็นเพียงเรื่องตลกในตำนานคริปโตเท่านั้นเอง ![image]( https://image.nostr.build/36c26bb98883a69559bebf41883e900bb6f4449400fe7d79f16a7ac7ff3125a9.jpg) ## ลำดับเหตุการณ์สงคราม Blocksize (Blocksize War) ### จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง (2015–2016) ปัญหาความแออัดของเครือข่าย Bitcoin: - การเพิ่มขึ้นของธุรกรรมทำให้บล็อกขนาด 1 MB ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมสูงและการยืนยันธุรกรรมล่าช้า ชุมชนเริ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่ม: - Big Block (ขยายบล็อกใหญ่ขึ้น): ต้องการเพิ่ม Blocksize ตรง ๆ เช่น 2 MB หรือมากกว่านั้น - Small Block (คงขนาดบล็อกเดิม): เน้นการแก้ปัญหาผ่านวิธีอื่น เช่น Segregated Witness (SegWit) --- ### การพัฒนาของ SegWit (2016) Segregated Witness (SegWit): - เสนอโดย Pieter Wuille และทีม Bitcoin Core - แก้ปัญหา Transaction Malleability และเพิ่มพื้นที่ธุรกรรมในบล็อกโดยย้ายข้อมูลลายเซ็นออกจากธุรกรรมหลัก Hong Kong Agreement (2016): - ความพยายามประนีประนอมระหว่างกลุ่ม Big Block และ Small Block - ตกลงว่าจะเพิ่ม Blocksize เป็น 2 MB และเปิดใช้งาน SegWit แต่ไม่สำเร็จจริง --- ### UASF และ SegWit Activation (2017) UASF (User-Activated Soft Fork): - เสียงของโหนดรายย่อยลุกขึ้นกดดันนักขุดให้รองรับ SegWit ผ่าน BIP 148 - เส้นตาย: 1 สิงหาคม 2017 ถ้านักขุดไม่รองรับ SegWit โหนด UASF จะไม่ยอมรับบล็อกของนักขุดเหล่านั้น SegWit Activation: - นักขุดยอมรับ SegWit เพื่อหลีกเลี่ยงการแยกเครือข่าย - SegWit เปิดใช้งานสำเร็จในวันที่ 24 สิงหาคม 2017 --- ### การเกิด Bitcoin Cash (1 สิงหาคม 2017) Hard Fork ครั้งใหญ่: - กลุ่ม Big Block นำโดย Roger Ver และ Jihan Wu สร้าง Bitcoin Cash (BCH) - BCH เปิดตัวด้วย Blocksize ขนาด 8 MB และโปรโมตว่าเป็น “เงินสดดิจิทัลที่แท้จริง” ผลกระทบ: - ชุมชน Bitcoin แตกเป็น 2 ฝ่ายชัดเจน - BCH ได้รับความนิยมในช่วงแรก แต่ไม่สามารถแทนที่ BTC ได้ในระยะยาว --- ### การพัฒนาของ Lightning Network (2017–2018) Layer 2 Solution: - Lightning Network (LN) เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องหลัง SegWit เปิดใช้งาน - ลดความแออัดในเครือข่ายหลักและทำให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้น การใช้งานจริง: - LN เริ่มทดสอบใน Testnet และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2018 --- ### ราคา Bitcoin พุ่งสูงสุด (ปลายปี 2017) - Bitcoin แตะ $20,000 ครั้งแรก: - ช่วงปลายปี 2017 ตลาดคริปโตเข้าสู่ช่วงเฟื่องฟู (Crypto Boom) - BCH ก็พุ่งสูงสุดที่มากกว่า $3,000 แต่เริ่มลดลงในปีถัดมา --- ### ความแตกแยกใน Bitcoin Cash (2018) Hard Fork อีกครั้ง: - เกิดความขัดแย้งในชุมชน BCH เรื่องแนวทางการพัฒนา - นำไปสู่การแยกตัวเป็น Bitcoin SV (BSV) นำโดย Craig Wright ผลกระทบ: - BCH และ BSV สูญเสียส่วนแบ่งตลาด - BTC ยังคงเป็นผู้นำในตลาดคริปโต --- ### การยอมรับ SegWit และการเปลี่ยนแปลงตลาด (2018–ปัจจุบัน) SegWit Adoption: - เมื่อผู้ใช้งานเริ่มใช้ SegWit มากขึ้น ค่าธรรมเนียมธุรกรรมลดลง และความแออัดในเครือข่ายลดลง - Bitcoin กลายเป็น Store of Value: - BTC ถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์เก็บออม” มากกว่า “เงินสดดิจิทัล” BCH และ BSV: - ตลาดของทั้งสองสายลดลง และไม่สามารถทดแทน BTC ได้ https://v.nostr.build/pxBuxtiSVNbisYMv.mp4