-
**"ผลกระทบของน้ำยาบ้วนปากต่อจุลชีพในช่องปากและร่างกาย: มุมมองใหม่จากการวิจัยล่าสุด"** ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา น้ำยาบ้วนปากได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรการดูแลสุขภาพช่องปากของคนจำนวนมาก โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อลดกลิ่นปาก ป้องกันฟันผุ และรักษาสุขภาพเหงือก อย่างไรก็ตาม การวิจัยล่าสุดได้เผยให้เห็นถึงผลกระทบที่ไม่คาดคิดของการใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศของจุลชีพในช่องปากและร่างกาย ![image](https://yakihonne.s3.ap-east-1.amazonaws.com/b34b440824d517ec4da6ac67f3197dbc9f03d82d70fdeb7f4b77909bacfb9667/files/1721273510342-YAKIHONNES3.webp) การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Medical Microbiology เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2024 โดย J.G.E. Laumen และคณะ ( https://www.microbiologyresearch.org/content/journal/jmm/10.1099/jmm.0.001830 )ได้ศึกษาผลของการใช้น้ำยาบ้วนปาก Listerine Cool Mint เป็นประจำทุกวันต่อจุลชีพในช่องปากและลำคอ ![image](https://yakihonne.s3.ap-east-1.amazonaws.com/b34b440824d517ec4da6ac67f3197dbc9f03d82d70fdeb7f4b77909bacfb9667/files/1721273188372-YAKIHONNES3.png) ผลการวิจัยพบว่าการใช้ Listerine เป็นเวลา 3 เดือนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในองค์ประกอบของจุลชีพในช่องปากและลำคอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มขึ้นของแบคทีเรีย Fusobacterium nucleatum และ Streptococcus anginosus ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพหากมีปริมาณมากเกินไป ![image](https://yakihonne.s3.ap-east-1.amazonaws.com/b34b440824d517ec4da6ac67f3197dbc9f03d82d70fdeb7f4b77909bacfb9667/files/1721273244426-YAKIHONNES3.png) โดยเชื้อทั้งสองตัวนั้นมีผลต่อสุขภาพดังนี้ Fusobacterium nucleatum: เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ตามปกติในช่องปาก แต่หากมีปริมาณมากเกินไปจะก่อให้เกิดปัญหาได้ มีความเกี่ยวข้องกับโรคปริทันต์ (โรคเหงือกอักเสบ) มีการศึกษาพบความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อนี้กับมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีส่วนในการกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับโรคทางระบบอื่นๆ Streptococcus anginosus: เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Streptococcus milleri ซึ่งพบได้ในช่องปาก ลำคอ และทางเดินอาหาร โดยปกติไม่ก่อโรค แต่ในบางกรณีอาจกลายเป็นเชื้อฉวยโอกาส สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อในช่องปาก เช่น ฝีในช่องปาก ในกรณีที่รุนแรง ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด หรือฝีในอวัยวะภายใน เช่น สมอง ปอด หรือตับ ผลการวิจัยนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับกลไกการทำงานของน้ำยาบ้วนปากและผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพ เมื่อพิจารณาส่วนประกอบหลักของ Listerine Cool Mint (รวมถึง น้ำยาบ้วนปากอื่นๆด้วย) ซึ่งประกอบด้วย 1. น้ำ (เป็นส่วนประกอบหลัก) 2.แอลกอฮอล์ (มักจะอยู่ที่ประมาณ 21.6%) 3.น้ำมันหอมระเหยจากพืช ได้แก่: Eucalyptol (น้ำมันยูคาลิปตัส) Menthol (เมนทอล) Thymol (ไทมอล) Methyl salicylate (เมทิลซาลิไซเลต หรือ น้ำมันวินเทอร์กรีน) 4.สารให้ความหวาน (มักใช้ซอร์บิทอล) 5.กรดเบนโซอิก (สารกันบูด) 6.สารให้สี (อาจใช้สีเขียว) 7.โซเดียมซักคาริน (สารให้ความหวาน) 8.โซเดียมเบนโซเอต (สารกันบูด) ![image](https://yakihonne.s3.ap-east-1.amazonaws.com/b34b440824d517ec4da6ac67f3197dbc9f03d82d70fdeb7f4b77909bacfb9667/files/1721273554283-YAKIHONNES3.jpg) จะพบว่าแต่ละสารมีส่วนทำให้เกิดการเสียสมดุลของจุลชีพในช่องปาก: 1. แอลกอฮอล์และน้ำมันหอมระเหย: มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อที่รุนแรง ทำลายทั้งแบคทีเรียที่เป็นโทษและเป็นประโยชน์ เปิดโอกาสให้เชื้อบางชนิดเติบโตได้มากขึ้น 2. สารกันบูด: ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์บางชนิดมากกว่าชนิดอื่น 3. สารให้ความหวาน: เป็นแหล่งอาหารสำหรับแบคทีเรียบางชนิด หรือเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในช่องปาก ผลการวิจัยนี้ได้ท้าทายความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำยาบ้วนปาก ในอดีต น้ำยาบ้วนปากถูกส่งเสริมว่ามีประโยชน์ในการลดกลิ่นปาก ป้องกันฟันผุ และช่วยรักษาโรคเหงือก อย่างไรก็ตาม การค้นพบใหม่นี้บ่งชี้ว่า ประโยชน์ระยะสั้นเหล่านี้อาจไม่คุ้มค่ากับผลเสียที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว การเสียสมดุลของจุลชีพในช่องปากอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ทั้งในช่องปากและระบบอื่นๆ ของร่างกาย เช่น โรคปริทันต์ มะเร็งหลอดอาหารและลำไส้ใหญ่ รวมถึงโรคทางระบบอื่นๆ บทความนี้เน้นย้ำความสำคัญของการพิจารณาอย่างรอบคอบในการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพช่องปาก และ ผู้บริโภคควรตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสมดุลของจุลชีพในช่องปากและพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ในการดูแลสุขภาพช่องปากที่อาจมีผลกระทบน้อยกว่าต่อระบบนิเวศของจุลชีพ เช่น การแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ การใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก ![image](https://yakihonne.s3.ap-east-1.amazonaws.com/b34b440824d517ec4da6ac67f3197dbc9f03d82d70fdeb7f4b77909bacfb9667/files/1721273600336-YAKIHONNES3.jpeg) ซึ่งการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก เป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพฟันและเหงือก รวมถึงการรักษาสมดุลของจุลชีพในช่องปากและร่างกายด้วย ซึ่งประกอบด้วย: **อาหารธรรมชาติที่มีการแปรรูปน้อย อาหารที่มีโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ ช่วยรักษาสมดุลของจุลชีพที่ดี เช่น โยเกิร์ต คีเฟอร์ กิมจิ ชีส อาหารที่กระตุ้นการหลั่งน้ำลาย: น้ำลายช่วยชะล้างแบคทีเรียและเศษอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นอกจากนี้ การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดและใช้เวลาในการรับประทานอาหารช้าๆ ยังช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำลายและส่งเสริมสุขภาพช่องปากที่ดีอีกด้วย น้ำเปล่า: ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอช่วยชะล้างช่องปากและรักษาความชุ่มชื้น** อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดคือ ** อาหารและเครื่องดื่มที่มีแป้ง/น้ำตาลสูง ซึ่งส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดฟันผุ และการอักเสบ รวมถึงอาหารที่ผสมสารต่างๆที่กล่าวมาก่อนหน้า** การรับประทานอาหารที่สมดุลและหลากหลายไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของร่างกายอีกด้วย หากยังต้องการใช้น้ำยาบ้วนปาก ควรพิจารณาใช้เฉพาะเมื่อจำเป็น ไม่ใช้เป็นประจำทุกวัน และอาจเลือกน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงสารต่างๆอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้า ในท้ายที่สุด การวิจัยนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่ยึดติดกับความเชื่อเดิมๆ โดยไม่พิจารณาหลักฐานใหม่ทางวิทยาศาสตร์ และวิธีการดูแลสุขภาพที่คำนึงถึงระบบนิเวศของจุลชีพมากขึ้น