@ 57d1a264:69f1fee1

 - - -                               - - - Credits: [1A1z.com](http://1a1z.com/) Download report in [PDF](https://s3.us-east-1.amazonaws.com/1a1z.com/files/1A1z+%2B+Breez+-+Bitcoin+Payments+-+From+Digital+Gold+to+Everyday+Currency.pdf) originally posted at https://stacker.news/items/883515

@ d360efec:14907b5f

  Bitcoin (BTCUSDT) กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แม้ว่าแนวโน้มหลักในระยะกลางถึงยาว (TF Day & 4H) จะยังคงเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่ในระยะสั้นมาก (TF15) กลับแสดงสัญญาณของความอ่อนแอและการปรับฐานลงมาอย่างรวดเร็ว แนวโน้ม: * TF Day: ขาขึ้น (Uptrend) แข็งแกร่ง – ราคาอยู่เหนือ EMA 50 และ EMA 200, โครงสร้างราคาเป็น Higher Highs (HH) และ Higher Lows (HL) อย่างต่อเนื่อง * TF4H: ขาขึ้น (Uptrend) ชัดเจน – ราคาอยู่เหนือ EMA, มีการพักตัวลงมา (Pullback) แต่ยังไม่เสียโครงสร้างขาขึ้น * TF15: ขาลง (Downtrend) ระยะสั้นมาก – ราคาหลุด EMA และแนวรับย่อย, โครงสร้างราคาเริ่มเป็น Lower Highs (LH) และ Lower Lows (LL) โครงสร้างราคา (SMC): * TF Day: ยืนยันแนวโน้มขาขึ้น (HH, HL, BOS) * TF4H: ยืนยันแนวโน้มขาขึ้น (HH, HL, BOS), มี Equal Highs (EQH) ที่เป็นแนวต้าน * TF15: บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงระยะสั้น (BOS ด้านล่าง, LH, LL), มี EQH เป็นแนวต้าน Money Flow (LuxAlgo): * TF Day: Money Flow: โดยรวมเป็นสีเขียว แสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงมีอิทธิพลเหนือกว่า แต่ก็มีแท่งสีแดงแทรกบ้าง บ่งบอกถึงการขายทำกำไรในบางช่วง * TF4H: Money Flow: โดยรวมเป็นสีเขียว แต่เริ่มมีแท่งสีเขียวสั้นลง และมีแท่งสีแดงยาวขึ้น แสดงว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนแรงลง และมีแรงขายเข้ามา * TF15: Money Flow: สีแดงมีอิทธิพลเหนือกว่าสีเขียวอย่างชัดเจน และแท่งสีแดงค่อนข้างยาว แสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่ง EMA (Exponential Moving Average): * TF Day & 4H: EMA 50 & 200 เป็นแนวรับสำคัญ * TF15: EMA 50 & 200 กลายเป็นแนวต้าน หลังจากราคาหลุดลงมา แนวรับ-แนวต้านสำคัญ: | Timeframe | แนวรับ | แนวต้าน | |---|---|---| | Day | EMA 50, EMA 200, บริเวณ 96,000-98,000 (Volume Profile), 85,724.7 | 109,998.9 (High เดิม) | | 4H | EMA 50, EMA 200, บริเวณ 96,000-98,000 (Volume Profile, Equilibrium), 89,037.0 | 109,998.9 (EQH, High เดิม) | | 15m | 95,200 (Low ล่าสุด), 94,707.4 (Low ก่อนหน้า) | EMA 50, EMA 200, บริเวณ 96,000, 96,807.8, 97,000-97,200 | กลยุทธ์ (BTCUSDT): * Wait & See (ทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้): * เนื่องจาก TF15 ขัดแย้งกับ TF Day & 4H อย่างชัดเจน การ "รอ" ให้ตลาดเฉลยทิศทางที่ชัดเจนกว่านี้ เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด * สังเกตพฤติกรรมราคา (Price Action) บริเวณแนวรับ-แนวต้านใน TF15 * Buy on Dip (Day, 4H) - ต้องระมัดระวังอย่างสูง: * สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ที่เชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น * เงื่อนไข: ต้องรอสัญญาณการกลับตัวของราคาใน TF15 ก่อน เช่น * การ Breakout แนวต้านย่อยๆ พร้อม Volume * การเปลี่ยน Money Flow (LuxAlgo) เป็นสีเขียว (ถ้ามี) * การเกิด Bullish Candlestick Patterns * จุดเข้า: บริเวณ EMA 50/200 ของ TF Day หรือ 4H, หรือบริเวณแนวรับอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญ * Stop Loss: ต่ำกว่า Low ล่าสุดของ TF15 หรือต่ำกว่าแนวรับที่เข้าซื้อ * Short (15, ความเสี่ยงสูงมาก): * สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น ที่รับความเสี่ยงได้สูง * เงื่อนไข: ราคาไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ EMA ของ TF15 ได้ * จุดเข้า: บริเวณ EMA ของ TF15 หรือแนวต้านอื่นๆ * Stop Loss: เหนือ High ล่าสุดของ TF15 หรือเหนือแนวต้านที่เข้า Short คำแนะนำ: * ความขัดแย้งของ Timeframes: การที่ TF15 ขัดแย้งกับ TF Day & 4H เป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างมาก * Volume: การ Breakout หรือ Breakdown ใดๆ ควรมี Volume สนับสนุน เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือ * Risk Management: สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเลือกกลยุทธ์ใด ต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี (ตั้ง Stop Loss, ไม่ Overtrade) * ข่าวสาร: ติดตามข่าวสารที่อาจส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin สรุป: สถานการณ์ของ BTCUSDT ตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง การ "รอ" อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ จนกว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ Disclaimer: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ

@ dd664d5e:5633d319

I think this note from Chip (nostr:npub1qdjn8j4gwgmkj3k5un775nq6q3q7mguv5tvajstmkdsqdja2havq03fqm7) is one of those things that people with business management experience take a lot more seriously than most developers and influencers do. I am painfully aware of the cost of systems administration, financial transaction management and recordkeeping, recruiting and personnel management, legal and compliance, requirements management, technical support, renting and managing physical spaces and infrastructure, negotiating with suppliers, customer service, etc. etc. There's this idea, on Nostr, that sort of trickled in along with Bitcoin Twitter, that we would all just be isolated subsistance farmers and one-man-show podcasters with a gigantic server rack in the basement. But some of us are running real companies -- on and off Nostr, for-profit and non-profit -- and it often requires a lot of human labor. The things we build aren't meant to be used by one person and his girlfriend and his dog. Yes, he can also run all these things, himself, but he no longer has to. Our existence gives him the choice: run these things or pay us to run them and spend your time doing something else, that you do better than we do. These things are meant to be used by hundreds... thousands... eventually millions of people. The workflows, processes, infrastructure, and personnel need to be able to scale up-and-down, scale in-and-out, work smoothly with 5 people or 50 people. These are the sort of Nostr systems that wouldn't collapse when encountering a sudden influx or mass-escape. But these systems are much more complex and they take time to build and staff to run them. (And, no, AI can't replace them all. AI means that they now also have to integrate a bunch of AI into the system and maintain that, too.) GitCitadel (nostr:npub1s3ht77dq4zqnya8vjun5jp3p44pr794ru36d0ltxu65chljw8xjqd975wz) is very automation-forward, but we still have to front the incredibly high cost of designing and building the automation, train people to interact with it (there are now over 20 people integrated into the workflow!), adjust it based upon their feedback, and we have to support the automation, once it's running. This sort of streamlined machine is what people pay companies for, not code. That is why there's little business cost to open source. Open-source is great, but...  nostr:nevent1qqsgqh2dedhagyd9k8yfk2lagswjl7y627k9fpnq4l436ccmlys0s3qprdmhxue69uhhg6r9vehhyetnwshxummnw3erztnrdakj7q3qqdjn8j4gwgmkj3k5un775nq6q3q7mguv5tvajstmkdsqdja2havqxpqqqqqqzdhnyjm

@ da0b9bc3:4e30a4a9

Hello Stackers! Welcome on into the ~Music Corner of the Saloon! A place where we Talk Music. Share Tracks. Zap Sats. So stay a while and listen. 🚨Don't forget to check out the pinned items in the territory homepage! You can always find the latest weeklies there!🚨 🚨Subscribe to the territory to ensure you never miss a post! 🚨 originally posted at https://stacker.news/items/883472

@ 502ab02a:a2860397

เนื่องด้วยทางสมาคมเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการผลิตหนังสือ หลักการและแนวปฏิบัติเพื่อการดูแลโรคเบาหวานให้เข้าสู่ระยะสงบ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก 1 มีนาคม 2568 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยครับ และได้มีการจัดทำในรูปแบบ ebook เอาไว้ด้วย โหลดได้ตาม link ด้านล่างนี้ครับ https://siripun.com/wp-content/uploads/2025/02/2025-2-12-Diabetes-Remission-in-Thailand.pdf

@ 57d1a264:69f1fee1

 - - -                      - - - Credits: [1A1z.com](http://1a1z.com/) Download report in [PDF](https://s3.amazonaws.com/1a1z.com/files/1A1z%20-%20Funding%20Bitcoin%20-%20Part%201.pdf) originally posted at https://stacker.news/items/883454

@ d360efec:14907b5f

**ภาพรวม LUNCUSDT (OKX):** LUNCUSDT กำลังพยายามฟื้นตัวจากแนวโน้มขาลงระยะยาว แต่ยังคงมีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูง แนวโน้มระยะกลางถึงยาว (TF Day & 4H) เริ่มมีสัญญาณบวกของการกลับตัวเป็นขาขึ้น (Early Uptrend) หลังจากราคา Breakout EMA 50 ใน TF Day และเกิด Golden Cross อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นมาก (TF15) กลับแสดงถึงความอ่อนแอและมีการปรับฐานลงมา   **แนวโน้ม:** * **TF Day:** เริ่มเป็นขาขึ้น (Early Uptrend) – ราคา Breakout EMA 50 และเกิด Golden Cross, Money Flow เป็นบวก * **TF4H:** เริ่มเป็นขาขึ้น (Early Uptrend) – ราคา Breakout EMA 50, มีการพักตัวลงมาทดสอบ EMA 50, Money Flow เริ่มไม่แน่นอน * **TF15:** แกว่งตัวออกข้าง (Sideways) หลังจากร่วงลง – ราคาอยู่ใต้ EMA, โครงสร้างราคาเป็น Lower Highs/Lows, Money Flow เป็นลบ **โครงสร้างราคา (SMC):** * **TF Day:** มี Break of Structure (BOS) ด้านบน, เริ่มเห็น Higher Highs (HH) และ Higher Lows (HL) * **TF4H:** มี BOS ด้านบน, เริ่มเห็น HH/HL (แต่ไม่ชัดเจน), มี Equal Highs (EQH) และ Equal Lows (EQL) * **TF15:** มี BOS ด้านล่าง, มี Change of Character (CHoCH) ทั้งบนและล่าง, เริ่มเห็น Lower Highs (LH) และ Lower Lows (LL) **Money Flow (LuxAlgo):** * **TF Day:** แรงซื้อแข็งแกร่ง (ไม่มีภาพ แต่จากการวิเคราะห์ก่อนหน้า) * **TF4H:** แรงซื้อและแรงขายพอๆ กัน, เริ่มมีแรงขายเข้ามา * **TF15:** แรงขายมีมากกว่าแรงซื้อ **EMA (Exponential Moving Average):** * **TF Day:** EMA 50 & 200 เป็นแนวรับ * **TF4H:** EMA 50 เป็นแนวรับที่กำลังถูกทดสอบ, EMA 200 เป็นแนวต้าน * **TF15:** EMA 50 & 200 กลายเป็นแนวต้าน **แนวรับ-แนวต้านสำคัญ:** | Timeframe | แนวรับ | แนวต้าน | | :-------- | :------------------------------------------------------------------------ | :------------------------------------------------------------------------------------------- | | Day | EMA 50 (0.00010000), EMA 200 (0.00008000), 0.00006000-0.00007000 | 0.00017953 (High ล่าสุด), 0.00014000 (Volume Profile) | | 4H | EMA 50 (ประมาณ 0.00007000), 0.00006000-0.00007000, Equilibrium | EMA 200 (0.00008000), 0.00008132, 0.00010000-0.00012000 (EQH) | | 15m | 0.00007300 (EQL, Volume Profile) | EMA 50, EMA 200, 0.00007531 (EQH), 0.00007636 (EQH, High ก่อนหน้า) | **กลยุทธ์ (LUNCUSDT):** 1. **Wait & See (ทางเลือกที่ดีที่สุด):** * เนื่องจาก TF15 ขัดแย้งกับ TF Day & 4H และ TF4H ก็เริ่มแสดงสัญญาณอ่อนแรง การ "รอ" ให้ตลาดแสดงทิศทางที่ชัดเจนกว่านี้ จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด * สังเกตพฤติกรรมราคา (Price Action) บริเวณแนวรับ-แนวต้านใน TF15 และ TF4H 2. **Buy on Dip (Day, 4H) - *ความเสี่ยงสูงมาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ*:** * สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ที่เชื่อมั่นในการกลับตัวของ LUNC (แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงได้สูงมาก) * **เงื่อนไข:** ต้องรอสัญญาณการกลับตัวของราคาใน TF15 ก่อน เช่น * การ Breakout แนวต้านย่อยๆ พร้อม Volume * การเปลี่ยน Money Flow (LuxAlgo) เป็นสีเขียว * การเกิด Bullish Candlestick Patterns * **จุดเข้า (Day):** EMA 50 (0.00010000), EMA 200 (0.00008000) *ต้องดู TF15 ประกอบ* * **จุดเข้า (4H):** EMA 50 (ประมาณ 0.00007000) *ต้องดู TF15 ประกอบ* * **Stop Loss:** ต่ำกว่า Low ล่าสุดของ TF15 หรือต่ำกว่าแนวรับที่เข้าซื้อ 3. **Short (15, ความเสี่ยงสูงมาก):** * สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น ที่รับความเสี่ยงได้สูงมาก * **เงื่อนไข:** ราคาไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ EMA ของ TF15 ได้ * **จุดเข้า:** บริเวณ EMA ของ TF15 หรือแนวต้านอื่นๆ * **Stop Loss:** เหนือ High ล่าสุดของ TF15 หรือเหนือแนวต้านที่เข้า Short **คำแนะนำ (เน้นย้ำ):** * **ความขัดแย้งของ Timeframes:** สถานการณ์ของ LUNCUSDT ตอนนี้มีความขัดแย้งกันสูงมากระหว่าง Timeframes และมีความเสี่ยงสูงกว่า XRP และ BTC * **Money Flow:** Money Flow ใน TF15 เป็นลบ และใน TF4H ก็เริ่มไม่แน่นอน * **LUNC เป็นเหรียญ High Risk:** มีความผันผวนสูงมาก และอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว * **ถ้าไม่แน่ใจ อย่าเพิ่งเข้าเทรด:** รอสัญญาณที่ชัดเจนกว่านี้ หรือเลือกเทรดเหรียญอื่นที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า * **Risk Management:** สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเลือกกลยุทธ์ใด ต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี (ตั้ง Stop Loss, ไม่ Overtrade, กระจายความเสี่ยง) **สรุป:** LUNCUSDT กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากและมีความเสี่ยงสูงมาก การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจนำไปสู่การขาดทุนได้ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเข้าเทรดทุกครั้ง และ "รอ" อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ค่ะ Disclaimer: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ

@ 16d11430:61640947

In the world of monetary systems, there exists a fundamental divide: Bitcoin, rooted in thermodynamic energy expenditure, and fiat, which is conjured into existence without cost. This contrast is not merely economic but thermodynamic and absolute, and it exposes why fiat cannot compete with Bitcoin in the long run. Fiat is an illusion, a monetary system unbacked by real work, while Bitcoin is a pure manifestation of the first law of thermodynamics—an asset where value is directly tied to the energy required to produce it. The battle between fiat and Bitcoin is thus not just one of finance but one of physics, where only one system is bound by the immutable laws of energy conservation, entropy, and work. 1. The First Law of Thermodynamics: Fiat Violates Conservation of Energy The first law of thermodynamics states that energy cannot be created or destroyed, only transformed. Bitcoin respects this law: Every single Bitcoin that exists was mined through proof-of-work, meaning that its existence required real-world energy expenditure. The hash power securing Bitcoin is derived from electricity converted into computational work, which is then permanently recorded on an immutable ledger. Fiat violates this law: Central banks create fiat money out of nothing. There is no energy backing it, no transformation of work into value—only arbitrary decree (hence the term "fiat"). Governments increase the supply at will, diluting purchasing power without consuming energy. By ignoring the fundamental rule of energy conservation, fiat is not a real asset—it is a transient system of control masquerading as money. 2. The Second Law of Thermodynamics: Fiat Is a High-Entropy System The second law of thermodynamics states that entropy (disorder) in a system always increases unless energy is applied to maintain order. Bitcoin is a low-entropy system: Its supply is mathematically fixed at 21 million coins, and mining difficulty adjusts dynamically, ensuring that equilibrium is maintained. No single actor can distort the system without expending equivalent energy. The network remains in a steady state of thermodynamic balance. Fiat is a high-entropy system: Governments print money without work, inflating the supply and injecting systemic disorder into the economy. This inflation acts as monetary heat death, where the increasing supply dissipates value across holders while concentrating purchasing power in those who print it. Fiat money is in a constant state of decay, requiring increasing levels of control (interest rate manipulation, debt issuance, taxation) just to delay collapse. As entropy increases, fiat systems require exponentially more intervention to function, but Bitcoin remains in a natural thermodynamic equilibrium, immune to external interference. 3. Proof-of-Work vs. Proof-of-Authority: Energy vs. Deception In physics, all work requires energy. Any system that attempts to extract value without work is an illusion. Bitcoin and fiat represent these two competing paradigms: Bitcoin = Proof of Work: Every coin is mined through energy expenditure. Value is tied to the energy needed to produce it. No energy, no Bitcoin. It is the only monetary system in human history that ties value to thermodynamic reality. Fiat = Proof of Authority: Money is created by decree, without cost. A handful of central planners determine supply, creating purchasing power without exerting work. Fiat is a perpetual thermodynamic imbalance, kept afloat only by coercion. The two systems cannot coexist indefinitely because one follows the laws of physics while the other fights against them. Fiat’s reliance on arbitrary issuance is unsustainable, whereas Bitcoin, bound by the laws of energy, will persist. 4. The Cost of Securing the System: Bitcoin vs. Fiat Enforcement All monetary systems require energy to maintain security and function. Here’s how Bitcoin and fiat compare: Bitcoin’s security budget = Thermodynamic work Mining requires energy input. Network security grows as more work is performed. The system self-regulates through difficulty adjustments. No external authority is required. Fiat’s security budget = Bureaucracy, coercion, and war Central banks manipulate money supply. Governments enforce fiat’s value through taxation and legal mandates. Military and police power are needed to uphold fiat supremacy. The cost of maintaining fiat rises exponentially as the system destabilizes. Bitcoin is secured by laws of physics, while fiat is secured by laws of men, enforced through control structures that demand increasingly inefficient energy expenditure. In the long run, this makes fiat unsustainable, as no amount of coercion can outmatch the absolute authority of thermodynamic principles. 5. The Final Thermodynamic Death of Fiat Fiat is trapped in a paradox: 1. Printing money (entropy injection) devalues it, requiring further interventions to maintain purchasing power. 2. Raising interest rates or reducing money supply (attempting order) leads to economic contraction, creating social instability. 3. Fiat collapses when the cost of enforcing order exceeds the energy available to maintain it. Bitcoin has no such issue. Its value is rooted in absolute energy conservation and cannot be manipulated without equivalent work. As fiat systems degrade, they will require exponentially increasing amounts of energy to sustain themselves—energy they do not have. Bitcoin, on the other hand, will continue its natural thermodynamic process: converting energy into an immutable store of value. Conclusion: The Laws of Physics Are Final Fiat’s fate is sealed because it is in conflict with the fundamental laws of thermodynamics: 1. It violates energy conservation by printing money from nothing. 2. It succumbs to entropy by requiring more intervention as disorder grows. 3. It lacks a proof-of-work foundation, meaning its value is arbitrary. 4. Its security model is based on force, which demands increasing energy inputs. Bitcoin, by contrast, is aligned perfectly with energy conservation and entropy minimization. It is a low-entropy monetary system that cannot be inflated, corrupted, or debased. It is the thermodynamic apex of monetary evolution. Fiat is an unstable system destined to fail because it defies the laws of physics. Bitcoin is the natural state of money because it follows them. The contest is not one of ideology but of reality—fiat will collapse, and Bitcoin will remain, as dictated by the immutable laws of thermodynamics.

@ d360efec:14907b5f

**ภาพรวม XRPUSDT :** XRPUSDT กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คล้ายกับ BTC แต่มีความอ่อนแอกว่าเล็กน้อย แนวโน้มระยะกลางถึงยาว (TF Day & 4H) เริ่มมีสัญญาณบวกของการเป็นขาขึ้น (Early Uptrend) แต่ในระยะสั้นมาก (TF15) กลับแสดงถึงความอ่อนแอและมีการปรับฐานลงมา   **แนวโน้ม:** * **TF Day:** เริ่มเป็นขาขึ้น (Early Uptrend) – ราคา Breakout EMA 50 ขึ้นมาได้, Money Flow เป็นบวก * **TF4H:** เริ่มเป็นขาขึ้น (Early Uptrend) – ราคา Breakout EMA 50, มีการพักตัวลงมาทดสอบ EMA 50, Money Flow เริ่มอ่อนแรง * **TF15:** แกว่งตัวลง (Sideways Down) – ราคาหลุด EMA, โครงสร้างราคาเป็น Lower Highs/Lows, Money Flow เป็นลบ **โครงสร้างราคา (SMC):** * **TF Day:** มี Break of Structure (BOS) ด้านบน, เริ่มเห็น Higher Highs (HH) และ Higher Lows (HL) * **TF4H:** มี BOS ด้านบน, เริ่มเห็น HH/HL (แต่ไม่ชัดเจน), มี Equal Highs (EQH) และ Equal Lows (EQL) * **TF15:** มี BOS ด้านล่าง, มี Change of Character (CHoCH) ทั้งบนและล่าง, เริ่มเห็น Lower Highs (LH) และ Lower Lows (LL) **Money Flow (LuxAlgo):** * **TF Day:** แรงซื้อแข็งแกร่ง * **TF4H:** แรงซื้อเริ่มอ่อนแรงลง, มีแรงขายเข้ามา * **TF15:** แรงขายมีมากกว่าแรงซื้อ **EMA (Exponential Moving Average):** * **TF Day:** EMA 50 & 200 เป็นแนวรับ * **TF4H:** EMA 50 เป็นแนวรับที่กำลังถูกทดสอบ, EMA 200 เป็นแนวรับถัดไป * **TF15:** EMA 50 & 200 กลายเป็นแนวต้าน **แนวรับ-แนวต้านสำคัญ:** | Timeframe | แนวรับ | แนวต้าน | | :-------- | :------------------------------------------------------------------------ | :-------------------------------------------------------------------- | | Day | EMA 50 (1.56), EMA 200 (1.08), Low ก่อนหน้า | 2.4450 (High ล่าสุด), 3.00-3.20 (EQH), 3.4049 | | 4H | EMA 50 (ประมาณ 2.20), EMA 200, 2.10-2.20 (EQL), 1.7820 | 2.4427, 2.3987, 3.00-3.20 (EQH), 3.4049 | | 15m | 2.38 (EQL, Volume Profile), 2.3274 | EMA 50, EMA 200, 2.4196, Equilibrium (2.44), 2.44-2.48 (EQH) | **กลยุทธ์ (XRPUSDT):** 1. **Wait & See (ทางเลือกที่ดีที่สุด):** * เนื่องจาก TF15 ขัดแย้งกับ TF Day & 4H อย่างชัดเจน และ TF4H ก็เริ่มแสดงสัญญาณอ่อนแรง การ "รอ" ให้ตลาดแสดงทิศทางที่ชัดเจนกว่านี้ จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด * สังเกตพฤติกรรมราคา (Price Action) บริเวณแนวรับ-แนวต้านใน TF15 และ TF4H 2. **Buy on Dip (Day, 4H) - *ความเสี่ยงสูงมาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ*:** * สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ที่เชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น (แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงได้สูง) * **เงื่อนไข:** ต้องรอสัญญาณการกลับตัวของราคาใน TF15 ก่อน เช่น * การ Breakout แนวต้านย่อยๆ พร้อม Volume * การเปลี่ยน Money Flow (LuxAlgo) เป็นสีเขียว * การเกิด Bullish Candlestick Patterns * **จุดเข้า (Day):** EMA 50 (1.56), EMA 200 (1.08) *ต้องดู TF15 ประกอบ* * **จุดเข้า (4H):** EMA 50 (2.20), บริเวณ EQL (2.10-2.20) *ต้องดู TF15 ประกอบ* * **Stop Loss:** ต่ำกว่า Low ล่าสุดของ TF15 หรือต่ำกว่าแนวรับที่เข้าซื้อ 3. **Short (15, ความเสี่ยงสูงมาก):** * สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น ที่รับความเสี่ยงได้สูงมาก * **เงื่อนไข:** ราคาไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ EMA ของ TF15 ได้ * **จุดเข้า:** บริเวณ EMA ของ TF15 หรือแนวต้านอื่นๆ * **Stop Loss:** เหนือ High ล่าสุดของ TF15 หรือเหนือแนวต้านที่เข้า Short **คำแนะนำ (เน้นย้ำ):** * **ความขัดแย้งของ Timeframes:** สถานการณ์ของ XRPUSDT ตอนนี้มีความขัดแย้งกันสูงมากระหว่าง Timeframes * **Money Flow:** Money Flow ใน TF15 เป็นลบ และใน TF4H ก็เริ่มอ่อนแรง * **EMA 50 (TF4H):** เป็นจุดชี้ชะตา ถ้าหลุด แนวโน้มขาขึ้นระยะกลางอาจเสีย * **ถ้าไม่แน่ใจ อย่าเพิ่งเข้าเทรด:** รอสัญญาณที่ชัดเจนกว่านี้ หรือเลือกเทรดเหรียญอื่นที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า **สรุป:** XRPUSDT กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากและมีความเสี่ยงสูง การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจนำไปสู่การขาดทุนได้ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเข้าเทรดทุกครั้งค่ะ Disclaimer: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ

@ 9967f375:04f9a5e1

 El día 13, primer viernes de Cuaresma asistió su Exc. y Real Audiencia en la Capilla Real del Palacio a la Misa, y Sermón, que predicó el Doctor Don Pedro Ramírez del Castillo, Canónigo Penitenciario de la Metropoltana. #GacetadeMéxico

@ d360efec:14907b5f

บทที่ 1: การเดินทางของนักเวทย์สาว ข้าคือ อาเรีย นักเวทย์ฝึกหัดผู้เดินทางมาจากดินแดนอันไกลโพ้น ข้าได้ยินเรื่องราวของอาณาจักรไทย ที่ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับ "แรงงานเงา" ซึ่งเป็นกลุ่มคนจากอีกดินแดนหนึ่งที่เข้ามาทำงานในอาณาจักรแห่งนี้ ข้าตัดสินใจที่จะเดินทางมายังอาณาจักรไทย เพื่อศึกษาเรื่องราวเหล่านี้ และหาทางแก้ไขปัญหา  บทที่ 2: การพบปะกับผู้คน เมื่อข้ามาถึงอาณาจักรไทย ข้าได้พบกับผู้คนมากมาย ทั้งชาวไทยและชาวพม่า ข้าได้ฟังเรื่องราวของพวกเขา ทั้งความยากลำบากในการทำงาน การถูกกดขี่ค่าแรง และความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ข้าได้เห็นถึงความขยันและอดทนของพวกเขา แต่ก็มีความขัดแย้งและความเข้าใจผิดเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสองกลุ่ม  บทที่ 3: การไขปริศนา ข้าเริ่มสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ และได้พบว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ต้องการใช้ประโยชน์จากแรงงานเงาม โดยการกดขี่ค่าแรงและแสวงหาผลประโยชน์ ข้ายังได้เรียนรู้ว่าอาณาจักรไทยกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และจำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานเงา  บทที่ 4: การตัดสินใจ ข้าได้คิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด และตัดสินใจที่จะใช้เวทย์มนตร์ของข้า เพื่อช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้น ข้าต้องการที่จะสร้างความเข้าใจและความเท่าเทียมกันระหว่างคนทุกกลุ่ม และทำให้อาณาจักรไทยเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข  บทที่ 5: การผจญภัย การเดินทางของข้ายังไม่จบสิ้น ข้ายังคงต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายอีกมากมาย แต่ข้าเชื่อมั่นว่าด้วยความมุ่งมั่นและความพยายามของข้า ข้าจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอาณาจักรไทยแห่งนี้ได้  บทสรุป เรื่องราวของอาเรีย นักเวทย์สาวผู้เดินทางมาเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานเงาในอาณาจักรไทย เป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมของเรา การกดขี่ค่าแรง การแบ่งแยกชนชั้น และการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้อื่น เราทุกคนสามารถเป็นเหมือนอาเรียได้ โดยการลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความถูกต้องและความเท่าเทียมกัน และสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

@ d058ffb7:70ed2330

Afin de profiter de tous les bienfaits du bitcoin, il est recommandé d'en prendre le réel contrôle, qui ese résume à posséder ses propres clés privés. Pour se faire, on doit utilise un portefeuille bitcoin. À l'opposé, il y a les solutions de type "gardien de valeur" (ou "custodial"), tel que Coinbase, Binance ou ShakePay, pour lesquels vous n'avez que "des bitcoin sur papier". Une portefeuille bitcoin doit au minimum permettre de : * Générer des clés privés, principalement via le concept de 12 | 24 mots secrets. * À partir de cette clé privée, dériver les clés publiques (ou "adresse bitcoin") * Signer et diffuser de nouvelles transactions * Afficher le solde des bitcoins Pour la majorité des cas d'utilisation, des applications mobiles sont suffisantes. Il y en a plusieurs dont l'offre de service peut différer. Pour profiter d'un maximum de fonctionnalités, il est avantageux d'utiliser un logiciel complet, sur PC, qui peut se connecter à son propre nœud ou utiliser un nœud public. Le logiciel Sparrow Wallet est souvent cité comme exemple puisqu'il est complet, convivial et open-source. Ce guide sert de point de départ pour apprendre à l'utiliser. ### Téléchargement À partir du [site officiel](https://www.sparrowwallet.com/download/), téléchargez la version qui correspond à votre système d'exploitation (Windows, Mac ou Linux). Avertissement : le bitcoin et les cryptomonnaies en général sont des cibles de choix pour les fraudeurs. Vérifiez bien d'être sur le bon site (par exemple, en se fiant à son concepteur @craigraw) et évitez les sites commandités par les moteurs de recherche. ### Vérification du logiciel Cette étape est facultative mais pour éviter les attaques de type "man-in-the-middle", où un fraudeur va remplacer la version officielle par une version frauduleuse, il est recommandé de vérifier l'exactitude intégrale du code, via une "stratégie PGP" (Pretty good privacy). Depuis peu, cette étape est seulement nécessaire pour le premier téléchargement de Sparrow Wallet puisque le logiciel offre une nouvelle fonctionnalité de validation simplifiée, expliquée sur la page de téléchargement. Pour la façon traditionnelle, les étapes détaillées sont disponible sur cette même page. ### Installation Sur Windows, vous n'avez qu'à télécharger le fichier .exe et à l'exécuter. ### Connexion à un nœud public Si vous lisez le présent guide, il est probable que vous ne mainteniez pas un nœud bitcoin local. Sparrow Wallet offre la possibilité de se connecter à un nœud public, via une liste d'adresses préfiltrées, disponible dans les paramètres de connexion. ### Création d'un nouveau portefeuille bitcoin Pour un premier portefeuille, un portefeuille de type native segwit est adéquat. Ce type est un compromis entre les adresses legacy et le nouveau protocole taproot. Il vous permet déjà de profiter d'économies sur les frais de transactions. Vous pouvez appliquer les changements pour créer un nouveau portefeuille, puis choisir le mode de création de la clé privée. L'utilisation de plusieurs mots, via BIP39, est la stratégie la plus répandue et qui a faite ces preuves. Vous pouvez choisir d'ajouter une passphrase, que vous pouvez choisir et qui joue le rôle de mot supplémentaire. Il est essentiel de le connaitre pour pouvoir signer des transactions ou encore restaurer votre portefeuille. Vous devez ensuite prendre ces mots en note car il vous sera demander de les réinscrire pour les valider. Une fois vos mots confirmés, vous pouvez confirmer la valeur par défaut pour le chemin de dérivation, puis appliquer les changements. Enfin, vous pourrez ajouter un mot de passe au besoin. ### Recevoir des bitcoin Avant d'envoyer des bitcoin, vous devez en avoir déjà reçu dans votre portefeuille. Pour cela, vous pouvez cliquer sur "Receive" pour afficher la prochaine adresse inutilisée. Pour des raisons de sécurité et de confidentialité, il est recommandé de toujours utiliser une adresse différente. Dans la section "Transactions", vous verrez plutôt toutes les adresses disponibles, incluant celles utilisées pour le change. Vous pouvez alors utiliser ces adresses dans l'application ou il y a les fonds. ### Envoyer des bitcoin Maintenant que vous avez des bitcoin, vous pouvez voir votre solde dans la section "Transactions". Si vous allez dans la section "Send", vous pourrez créer une nouvelle transaction. Pour les intrants à cette transaction, Sparrow Wallet peut choisir en fonction de l'efficience (coûts) ou de la confidentialité. La section "UTXO", qui exposent vos transactions non dépensées, permet un contrôle manuel des intrants à une transaction. Une fois créée, la transaction devra être signée (avec votre clé privée), puis diffusée (broadcaster) sur le réseau. ### Explorer la chaîne Vous ne voyez toujours pas votre transaction ? Vous êtes curieux de voir ce qu'il se passe sur le réseau bitcoin. Alors allez jetez un coup d'oeil à mempool.space. Dans la boîte de recherche, vous pouvez y coller votre transaction ou votre adresse et confirmer l'état de la transaction. Vous pouvez également valider que votre portefeuille est à jour y en comparant la hauteur (ou numéro de bloc). ### Restaurer un portefeuille Vous avez trouver 12 mots et voulez tester si ça cache quelque chose ? Perdu votre cellulaire avec votre application mobile mais vous avez vos 12 mots ? Il est alors possible de restaurer un portefeuille en utilisant la fonctionnalité de création mentionnée plus haut. Cette fois-ci, plutôt que de les générer automatiquement, vous n'avez qu'à saisir les mots pris en note et le passphrase s'il y a lieu. Il est prudent de considérer ce portefeuille comme étant corrompue ou comme ayant fuité et d'en créer un nouveau puis d'y transférer les fonds. Avec ces instructions, vous devriez avoir la fondation nécessaire pour faire vos premières transactions sécuritairement. Dans les prochains guide, vous verrez comment utiliser une Coldcard, soit une portefeuille physique qui permet de créer la clé privée hors-connexion, ainsi qu'un OpenDime, une clé à usage unique. Si vous avez des commentaires, vous pouvez m'écrire sur X (anciennement Twitter) @lekingfu ou par courriel au bitcoin@lekingfu.com.

@ 3b7fc823:e194354f

*I fought with making this work for two days before I finally figured out that I made a simple SQL format mistake. I asked chatGPT to write a tutorial on how to do it based on what I did and the work I did with it. Sharing it in case anyone finds it useful.* # Enabling Persistent Memory in Open WebUI with Ollama This tutorial will guide you through the process of enabling persistent memory for your AI models running locally with [Ollama](https://github.com/ollama/ollama) and [Open WebUI](https://github.com/open-webui/open-webui) on Debian Linux. By the end of this guide, your AI will be able to remember the last 20 conversations you’ve had with it. --- ## Prerequisites - Debian Linux system - Ollama installed and configured - Open WebUI installed and running --- ## Step 1: Setting Up the Database for Persistent Memory We'll use SQLite to store conversation history. ### 1.1 Create `conversation_memory.py` Navigate to your Open WebUI backend directory and create a new file called `conversation_memory.py`. ```bash cd /home/your_username/Documents/open-webui-0.5.10/backend nano conversation_memory.py ``` Paste the following code into `conversation_memory.py`: ```python import sqlite3 import os # Set DB_FILE to the absolute path of memory.db in the same directory as this script DB_FILE = "/home/your_username/Documents/open-webui-0.5.10/backend/memory.db" def init_db(): """Create database table if it doesn't exist""" conn = sqlite3.connect(DB_FILE) c = conn.cursor() c.execute(""" CREATE TABLE IF NOT EXISTS memory ( id INTEGER PRIMARY KEY AUTOINCREMENT, user TEXT, ai TEXT ) """) conn.commit() conn.close() def save_conversation(user_input, ai_response): """Save a conversation entry to the database and maintain only the last 20 entries.""" try: conn = sqlite3.connect(DB_FILE) c = conn.cursor() c.execute("INSERT INTO memory (user, ai) VALUES (?, ?)", (user_input, ai_response)) c.execute(""" DELETE FROM memory WHERE id NOT IN ( SELECT id FROM memory ORDER BY id DESC LIMIT 20 ) """) conn.commit() conn.close() print(f"Successfully saved: User - {user_input}, AI - {ai_response}") except Exception as e: print(f"Error saving conversation: {e}") def get_last_conversations(limit=5): """Retrieve the last 'limit' number of conversations""" try: conn = sqlite3.connect(DB_FILE) c = conn.cursor() c.execute("SELECT user, ai FROM memory ORDER BY id DESC LIMIT ?", (limit,)) conversations = c.fetchall() conn.close() return conversations except Exception as e: print(f"Error retrieving conversations: {e}") return [] # Initialize the database when this script is run init_db() ``` --- ## Step 2: Integrating Memory into Open WebUI Middleware We'll modify the Open WebUI middleware to save and retrieve conversations. ### 2.1 Edit `middleware.py` Open the `middleware.py` file for editing: ```bash nano middleware.py ``` ### 2.2 Import Memory Functions At the top of the file, import the memory functions: ```python from conversation_memory import save_conversation, get_last_conversations ``` ### 2.3 Retrieve and Append Conversation History Locate the function responsible for processing chat payloads. Add the following code to retrieve and append the last 20 conversations: ```python # Retrieve past conversations (e.g., last 20 messages) conversation_history = get_last_conversations(limit=20) # Format past conversations as context history_text = "\n".join([f"User: {conv[0]}\nAI: {conv[1]}" for conv in conversation_history]) # Append conversation history to the current user message user_message = get_last_user_message(form_data["messages"]) if history_text: combined_message = f"Previous conversation:\n{history_text}\n\nNew message:\nUser: {user_message}" else: combined_message = f"User: {user_message}" # Update the last user message with combined history form_data["messages"][-1]["content"] = combined_message ``` ### 2.4 Save New Conversations Ensure that new conversations are saved after the AI generates a response. Add the following code where the AI response is handled: ```python # Extract AI response content if isinstance(ai_response, dict) and "choices" in ai_response: ai_response_content = ai_response["choices"][0]["message"]["content"] else: ai_response_content = "" # Save the new conversation if ai_response_content.strip(): save_conversation(user_message, ai_response_content) ``` --- ## Step 3: Testing Persistent Memory ### 3.1 Run the Script to Test Saving Run `conversation_memory.py` to ensure it's saving data correctly: ```bash python3 /home/your_username/Documents/open-webui-0.5.10/backend/conversation_memory.py ``` ### 3.2 Query the Database to Verify Data Use SQLite to check if conversations are being saved: ```bash sqlite3 /home/your_username/Documents/open-webui-0.5.10/backend/memory.db sqlite> SELECT * FROM memory; ``` You should see your test conversations listed. --- ## Step 4: Final Verification in Open WebUI 1. Restart the Open WebUI server to apply changes. 2. Start a conversation with the AI. 3. After several interactions, verify if the AI references past conversations. 4. Query `memory.db` again to ensure new conversations are being saved: ```bash sqlite3 /home/your_username/Documents/open-webui-0.5.10/backend/memory.db sqlite> SELECT * FROM memory; ``` --- ## Conclusion You’ve successfully enabled persistent memory for your AI models running with Ollama and Open WebUI! The AI will now remember the last 20 conversations, creating a more dynamic and personalized user experience. Feel free to adjust the memory limit or expand the functionality as needed. Happy coding! --- Advocating for privacy does not finance itself. If you enjoyed this article, please consider zapping or sending monero 82XCDNK1Js8TethhpGLFPbVyKe25DxMUePad1rUn9z7V6QdCzxHEE7varvVh1VUidUhHVSA4atNU2BTpSNJLC1BqSvDajw1

@ b83a28b7:35919450

The traditional product development lifecycle is undergoing a profound transformation. Powered by AI tools evolving at a scarcely believable pace, 2025 promises to revolutionize how we conceive, build, and iterate on products, offering unprecedented efficiency and innovation. In this post, I'm going to lay out how the seven traditional stages of the PDLC can be accelerated by 5-10x with existing tools. It's worth pointing out that these capabilities I'm listing are current as of February 11 2025. It is very possible that these all get upended by something even better by March or April! ## 1. Ideation and Market Research The first phase of product development is supercharged by AI's ability to analyze vast datasets and identify trends. Tools like AlphaSense and Google Gemini 2.0 can sift through financial reports, social media chatter, and market analyses to distill actionable insights in a fraction of the time it would take human researchers. This AI-augmented ideation process doesn't replace human creativity but amplifies it, allowing teams to explore a broader range of possibilities and make data-driven decisions from the outset. _[Note, I'm not even touching on OpenAI's Deep Research Model that was released last week, which from all the initial reaction, will likely be a massive improvement on the models above]_ ## 2. Requirements Gathering and User Story Generation AI models like Tara AI and Claude 3.5 Sonnet excel at translating abstract business objectives into detailed user stories and technical specifications. These tools can analyze workflows, integrate with existing systems, and generate comprehensive requirements documents. While AI streamlines this process, product managers still play a crucial (but perhaps diminishing over the next few years) role in refining and validating these AI-generated outputs, ensuring alignment with business goals and human needs. ## 3. Design and Prototyping The design phase is revolutionized by tools like Adobe Firefly and Neurons Predict AI. These AI systems can generate high-fidelity prototypes based on text prompts and even simulate user behavior to optimize UI/UX designs. Human designers remain essential, infusing prototypes with creativity and emotional resonance that AI alone cannot provide. ## 4. Development and Implementation AI coding assistants like GitHub Copilot X and Claude 3.5 Sonnet, and more recently, DeepSeek R1 and o3-mini, are transforming the development process. These tools can generate code, assist with debugging, and accelerate development workflows. However, human developers are still crucial for overseeing critical logic, ensuring security compliance, and making high-level architectural decisions. ## 5. Quality Assurance AI-driven QA tools like ACCELQ Autopilot and Appvance IQ automate test case creation, execution, and maintenance. These systems can adapt to application changes in real-time, significantly reducing the manual effort required in testing. Human QA engineers focus on validating critical test cases and ensuring overall product reliability. ## 6. Deployment Deployment is streamlined with AI-powered tools like Harness CI/CD and AWS SageMaker. These systems automate deployment pipelines and use machine learning to detect potential failures proactively. Human DevOps teams oversee these processes, ensuring smooth rollouts and managing any unforeseen issues. ## 7. Post-Launch Monitoring and Iteration AI excels in post-launch monitoring, with tools like Arize AI and Weights & Biases providing real-time insights and actionable analytics. These systems can detect usage patterns, identify areas for improvement, and even suggest optimizations. Product teams use these AI-generated insights to prioritize updates and guide the product's evolution. By leveraging AI throughout the product development lifecycle, teams can dramatically reduce time-to-market while maintaining or even improving product quality. This AI-driven approach doesn't eliminate the need for human expertise but rather enhances it, allowing teams to focus on higher-level strategic decisions and creative problem-solving. The future of product development lies in this symbiosis between human ingenuity and AI capabilities. As these AI tools continue to evolve, we can expect even greater efficiencies and innovations in the PDLC, ultimately leading to better products that more closely align with user needs and market demands.

@ 3b7fc823:e194354f

We are constantly surrounded by technologies that claim to enhance our experiences but often come at the cost of our privacy. Think about it – every time you visit a website, cookies are being dropped like breadcrumbs, tracking your every move without you even knowing. **How Tech Companies Collect Your Data: The Spy Next Door** 1. **Cookies**: These tiny files are placed on your device as soon as you visit a site. They follow you around the web, creating a digital trail that companies use to learn about your habits and interests. 2. **Tracking Pixels**: Like cookies, these are invisible tags that track your actions across different websites. Imagine someone following you wherever you go online – that's what tracking pixels do. 3. **Behavioral Targeting**: This is when companies analyze your browsing history to serve you ads tailored to your interests. It's like knowing what you like and then bombarding you with it, whether you like it or not. 4. **Data Brokers**: These middlemen collect data from various sources and sell it on to the highest bidder. Your information could be used for marketing, insurance, or even political purposes – without your consent! 5. **Third-Party trackers**: Apps and websites you visit may share your data with other companies, creating a web of surveillance that's hard to escape. **What They Do with Your Data** Once companies have your data, they can use it for targeted advertising, profile building, and even political manipulation. Think about the Cambridge Analytica scandal... Your data isn't just used to make your experience better; it's being sold and exploited in ways you probably never imagined. **How to Stop Them: Empower Yourself** 1. **Use Privacy-Friendly Browsers**: Tools like Brave or Firefox with enhanced tracking protection can block trackers and cookies, giving you control over what data is collected. 2. **Block Trackers and Cookies**: Browser extensions that allow you to block these elements are available for free, providing an added layer of privacy. 3. **Minimize Data Usage**: When using apps or websites, avoid granting unnecessary permissions that could lead to data collection. 4. **Delete Unused Apps**: Regularly delete apps and services that are no longer needed to stop data collection from inactive accounts. 5. **Read Privacy Policies**: Before accepting terms of service or privacy policies, read through them to understand what data will be collected and how it will be used. 6. **Use Incognito or Private Browsing Modes**: These modes often block cookies and trackers, offering an additional way to reduce data collection. But remember that Google was still tracking you on Chrome regardless, so your mileage may vary. 7. **Limit Device Usage**: Avoid using personal devices for sensitive activities when privacy is a concern. 8. **Use Tor**: Yes it's slower, yes some sites won't work. It's more private and you using helps disquise traffic giving protection for others that might need it more than you do. **Why It Matters: The Domino Effect** The data collected today isn't just for ads; it's used in decision-making processes that can affect your life. From insurance rates to job opportunities, your data can influence significant aspects of your existence. Imagine a world where your information is bought and sold without your consent – it's time to take control. **Your Data, Your Choice** Your data is being collected and sold without your consent, and the time to act is now. By understanding how data collection works and taking steps to protect yourself, you can reclaim control over your privacy. Remember, you're not just a user – you're the owner of your information. It's time to stand up for your rights and demand transparency from the companies that claim to serve you. **Don't Let Corporate Spies Steal Your Privacy** Your data is valuable, and it's being harvested without your knowledge. Take action today by educating yourself and others about the importance of privacy. Together, we can create a world where privacy is respected and protected, not exploited for profit. Join the movement to fight against corporate surveillance and protect your right to privacy. Your information is too important to leave in the hands of those who don't have your consent. It's time to take a stand – your digital life depends on it. --- Advocating for privacy does not finance itself. If you enjoyed this article, please consider zapping or sending monero 82XCDNK1Js8TethhpGLFPbVyKe25DxMUePad1rUn9z7V6QdCzxHEE7varvVh1VUidUhHVSA4atNU2BTpSNJLC1BqSvDajw1

@ 9e69e420:d12360c2

Scientists at the University of Oxford have made a significant advancement in teleportation. They successfully beamed data between two quantum computers over a distance of more than six feet. By using light particles, they created a shared quantum link, allowing both devices to function as one. This achievement addresses issues in building scalable quantum computers, enabling smaller devices to work together instead of needing a massive machine. The team accomplished this using quantum gates, vital for quantum computing tasks. As lead researcher Dougal Main noted, "By carefully tailoring these interactions, we can perform logical quantum gates." Such breakthroughs could pave the way for a 'quantum internet' capable of secure communication and data processing.

@ 9f7a4807:45d1479b

Un pensamiento sobre la importancia de leer, compartir y promocionar lo que leemos como una estrategia de resistencia y desarrollo comunitario (presencial o virtual) Recientemente tomé la decisión de comenzar la planificación de un proyecto de literatura en las redes sociales, para poder compartir lo que leo y lo que me parece importante e indispensable y así crear una comunidad virtual en la que produzcamos discursos e intelecto. En nuestra cotidianidad, debemos emplear instintivamente el compartirnos y compartir nuestros libros, que sea una cuestión tan normal como hablar de Bad Bunny, tenía que decirlo, sorry. Les contaré cómo llegué a este deseo: Luego de las elecciones del 2024 nos encontramos todxs en un mar de deseo para poder organizarnos en masa para educarnos, resistir y emplear cambios intelectuales y materiales en Puerto Rico. Todo esto nace a consecuencia del secuestro evidente que la clase política conservadora, estadista y populista tiene sobre nuestro archipiélago. Pero, este llamado a la organización de masas siempre se disipa desde sus publicaciones virtuales, jangueos sanos o con cerveza y fili en mano o hasta en el periódico. Creo que entendí que si el sistema capitalista y colonial nos dividió y creó un individualismo rampante, entonces desde mi individualismo me planificaré para armar una comunidad utilizando las redes sociales que tanto tiempo nos quita y nos desinforma constantemente. **¿Por qué se disipa ese llamado a la organización ante el estado colonial?**  Dentro de las múltiples razones concretas de las que puedo explicarles, la más que sobresale para mí es esta: El estado nos ha dividido exitosamente con sus aparatos de opresión; asimilación, capacitismo, clasismo, cuirfobia, desinformación, deudas, explotación laboral, misoginia, persecución policiaca, racismo, transmisoginia, vigilancia, la lista continua. Por esta razón es que leer es un acto político meramente por el factor tiempo, este mundo tiene un andamiaje diseñado para producir tu manera de sobrevivir fuera de los libros y la literatura. Además, lamentablemente, las nuevas generaciones no están leyendo a un nivel avanzado y solo consumen información a través de contenido de formato corto. Esto último quizás es una tangente abrumante, pero luego podemos hablar de eso. La realidad es que requerimos de absorber la mayor cantidad de información, la cual nos ayude a crear cambios radicales a la condición material de la juventud y adultez en Puerto Rico. Requerimos de un proyecto nacional para enseñar análisis crítico, alfabetización informacional y mediática utilizando como base los libros. Digo libros y no la lectura porque el libro es la tecnología más accesible que tenemos hoy día. Considerando que más de la mitad de la población infantil en Puerto Rico vive bajo niveles de empobrecimiento1, tendríamos que emplear esta misión con el libro. Como escritores y lectores individuales, debemos entender que nuestra misión ahora mismo es crear plataformas de educación y promoción educativa para todxs en Puerto Rico. “Si queremos que las personas con las que trabajamos como promotores o animadores construyan sentidos personales frente a lo que leen, desarrollen un pensamiento crítico frente a la realidad a través de la lectura y la escritura [y] reflexionen sobre sí mismos y sobre sus relaciones con el mundo, [deben utilizar] la lectura y la escritura para generar transformaciones” (p.29). La escritora chilena Helena Robledo nos obsequia un vistazo a la formación de pensamiento y visión necesaria para este proyecto del uso de libros. Por eso pienso, desesperadamente, que los libros son nuestro campo político más valioso y debemos construir sobre este. Estaré desarrollando este proyecto en Instagram, Tiktok y Substack. Tengo mucho que contarles y estoy seguro de que ustedes también. Un abrazo.  Sígueme en mis redes sociales: [Instagram](https://www.instagram.com/lunita_tristona/) [X](https://x.com/plateadaluz) [Substack](https://substack.com/@lunaquinonesdeleon) Referencias: 1. Revelan Perfil De Los Niños Y Niñas En Pobreza En Puerto Rico - Instituto Del Desarrollo De La Juventud. www.juventudpr.org/blog/revelan-perfil-de-los-ninos-y-ninas-en-probreza-en-puerto-rico. 2. El Mediador De Lectura: La Formación Del Lector Integral. Chile, IBBY Chile, 2017, www.ibbychile.cl/wp-content/uploads/2017/11/El_Mediador_de_lectura_web.pdf.

@ bf47c19e:c3d2573b

Originalni tekst na [dvadesetjedan.com](https://dvadesetjedan.com/blog/niko-ne-moze-zabraniti-bitcoin) ###### Autor: [Parker Lewis](https://x.com/parkeralewis) / Prevod na srpski: [Plumsky](https://t.me/SkiLites) --- Ideja da država može nekako zabraniti bitcoin je jedna od poslednjih faza tuge, tačno pred prihvatanje realnosti. Posledica ove rečenice je priznanje da bitcoin “funkcioniše”. U stvari, ona predstavlja činjenicu da bitcoin funkcioniše toliko dobro da on preti postojećim državnim monopolima nad novcem i da će zbog toga države da ga unište kroz regulativne prepreke da bi eliminisale tu pretnju. Gledajte na tvrdnju da će države zabraniti bitcoin kao kondicionalnu logiku. Da li bitcoin funkcioniše kao novac? Ako je odgovor „ne“, onda države nemaju šta da zabrane. Ako je odgovor „da“, onda će države da probaju da ga zabrane. Znači, glavna poenta ovog razmišljanja je pretpostavka da bitcoin funkcioiniše kao novac. Onda je sledeće logično pitanje da li intervencija od strane države može uspešno da uništi upravo taj funkcionalan bitcoin.  Za početak, svako ko pokušava da razume kako, zašto, ili da li bitcoin funkcioniše mora da proceni ta pitanja potpuno nezavisno od prouzrekovanja državne regulacije ili intervencije. Iako je nesumnjivo da bitcoin mora da postoji uzgred državnih regulativa, zamislite na momenat da države ne postoje. Sam od sebe, da li bi bitcoin funkcionisao kao novac, kad bi se prepustio slobodnom tržištu? Ovo pitanje se širi u dodatna pitanja i ubrzo se pretvara u bunar bez dna. Šta je novac? Šta su svojstva koja čine jednu vrstu novca bolje od druge? Da li bitcoin poseduje ta svojstva? Da li je bitcoin bolja verzija novca po takvim osobinama? Ako je finalni zaključak da bitcoin ne funkcioniše kao novac, implikacije državne intervencije su nebitne. Ali, ako je bitcoin funkcionalan kao novac, ta pitanja onda postaju bitna u ovoj debati, i svako ko o tome razmišlja bi morao imati taj početnički kontekst da bi mogao proceniti da li je uopšte moguće zabraniti. Po svom dizajnu, bitcoin postoji van države. Ali bitcoin nije samo van kontrole države, on u stvari funkcioniše bez bilo kakve saradnje centralizovanih identiteta. On je globalan i decentralizovan. Svako može pristupiti bitcoinu bez potrebe saglasnosti bilo koga i što se više širi sve je teže cenzurisati celokupnu mrežu. Arhitektura bitcoina je namerno izmišljena da bude otporna na bilo koje pokušaje države da ga zabrane. Ovo ne znači da države širom sveta neće pokušavati da ga regulišu, oporezuju ili čak da potpuno zabrane njegovo korišćenje. Naravno da će biti puno bitki i otpora protiv usvajanja bitcoina među građanima. Federal Reserve i Američki Treasury (i njihovi globalni suparnici) se neće ležeći predati dok bitcoin sve više i više ugrožava njihove monopole prihvatljivog novca. Doduše, pre nego što se odbaci ideja da države mogu potpuno zabraniti bitcoin, mora se prvo razumeti posledice tog stava i njegovog glasnika. #### Progresija poricanja i stepeni tuge Pripovesti skeptičara se neprestano menjaju kroz vreme. Prvi stepen tuge: bitcoin nikad ne može funkcionisati-njegova vrednost je osnovana ni na čemu. On je moderna verzija tulip manije. Sa svakim ciklusom uzbuđenja, vrednost bitcoina skače i onda vrlo brzo se vraća na dole. Često nazvano kao kraj njegove vrednosti, bitcoin svaki put odbija da umre i njegova vrednost pronađe nivo koji je uvek viši od prethodnih ciklusa globalne usvajanja. Tulip pripovetka postaje stara i dosadna i skeptičari pređu na više nijansirane teme, i time menjaju bazu debate. Drugi stepen tuge predstoji: bitcoin je manjkav kao novac. On je previše volatilan da bi bio valuta, ili je suviše spor da bi se koristio kao sistem plaćanja, ili se ne može proširiti dovoljno da zadovolji sve promete plaćanja na svetu, ili troši isuviše struje. Taj niz kritike ide sve dalje i dalje. Ovaj drugi stepen je progresija poricanja i dosta je udaljen od ideje da je bitcoin ništa više od bukvalno bezvrednog ničega. Uprkos tim pretpostavnim manjcima, vrednost bitcoin mreže nastavje da raste vremenom. Svaki put, ona ne umire, nasuprot, ona postaje sve veća i jača. Dok se skeptičari bave ukazivanjem na manjke, bitcoin ne prestaje. Rast u vrednosti je prouzrokovan jednostavnom dinamikom tržišta: postoji više kupca nego prodavca. To je sve i to je razlog rasta u adopciji. Sve više i više ljudi shvata zašto postoji fundamentalna potražnja za bitcoinom i zašto/kako on funkcioniše. To je razlog njegovog dugotrajnog rasta. Dokle god ga sve više ljudi koristi za čuvanje vrednosti, neće pasti cena snabdevanja. Zauvek će postojati samo 21 milion bitcoina. Nebitno je koliko ljudi zahtevaju bitcoin, njegova cela količina je uvek ista i neelastična. Dok skeptičari nastavljaju sa svojom starom pričom, mase ljudi nastavljaju da eliminišu zabludu i zahtevaju bitcoin zbog njegovih prednosti u smislu novčanih svojstva. Između ostalog, ne postoji grupa ljudi koja je više upoznata sa svim argumentima protiv bitcoina od samih bitcoinera.  Očajanje počinje da se stvara i onda se debata još jedanput pomera. Sada nije više činjenica je vrednost bitcoina osnovana ni na čemu niti da ima manjke kao valuta; sada se debata centrira na regulaciji državnih autoriteta. U ovom zadnjem stepenu tuge, bitcoin se predstavlja kao u stvari isuviše uspešnom alatkom i zbog toga države ne smeju dozvoliti da on postoji. Zaista? Znači da je genijalnost čoveka ponovo ostvarila funkcionalan novac u tehnološko superiornoj formi, čije su posledice zaista neshvatljive, i da će države upravo taj izum nekako zabraniti. Primetite da tom izjavom skeptičari praktično priznaju svoj poraz. Ovo su poslednji pokušaji u seriji promašenih argumenata. Skeptičari u isto vreme prihvataju da postoji fundamentalna potražnja za bitcoinom a onda se premeštaju na neosnovan stav da ga države mogu zabraniti. Ajde da se poigramo i tim pitanjem. Kada bih zapravo razvijene države nastupile na scenu i pokušale da zabrane bitcoin? Trenutno, Federal Reserve i Treasury ne smatraju bitcoin kao ozbiljnu pretnju superiornosti dolara. Po njihovom celokupnom mišljenju, bitcoin je slatka mala igračka i ne može da funkcioniše kao novac. Sadašnja kompletna kupovna moć bitcoina je manja od $200 milijardi. Sa druge strane, zlato ima celokupnu vrednost od $8 triliona (40X veću od bitcoina) i količina odštampanog novca (M2) je otprilike 15 triliona (75X veličine bitcoinove vrednosti). Kada će Federal Reserve i Treasury da počne da smatra bitcoin kao ozbiljnu pretnju? Kad bitcoin poraste na $1, $2 ili $3 triliona? Možete i sami da izaberete nivo, ali implikacija je da će bitcoin biti mnogo vredniji, i posedovaće ga sve više ljudi širom sveta, pre nego što će ga državne vlasti shvatiti kao obiljnog protivnika. Predsednik Tramp & Treasury Sekretar Mnučin o Bitcoinu (2019): > „Ja neću pričati o bitcoinu za 10 godina, u to možete biti sigurni {…} Ja bi se kladio da čak za 5 ili 6 godina neću više pričati o bitcoinu kao sekretar Trusury-a. Imaću preča posla {…} Mogu vam obećati da ja lično neću biti pun bitcoina.“ – Sekretar Treasury-a Stiv Mnučin > „Ja nisam ljubitelj bitcoina {…}, koji nije novac i čija vrednost je jako volatilna i osnovana na praznom vazduhu.“ – Predsednik Donald J. Tramp Znači, logika skeptika ide ovako: bitcoin ne funkcioniše, ali ako funkcioniše, onda će ga država zabraniti. Ali, države slobodnog sveta neće pokušati da ga zabrane dokle god se on ne pokaže kao ozbiljna pretnja. U tom trenutku, bitcoin će biti vredniji i sigurno teži da se zabrani, pošto će ga više ljudi posedovati na mnogo širem geografskom prostoru. Ignorišite fundamentalne činjenice i asimetriju koja je urođena u globalnom dešavanju monetizacije zato što u slučaju da ste u pravu, države će taj proces zabraniti. Na kojoj strani tog argumenta bi radije stajao racionalan ekonomski učesnik? Posedovanje finansijske imovine kojoj vrednost toliko raste da preti globalnoj rezervnoj valuti, ili nasuprot – nemati tu imovinu? Sa pretpostavkom da individualci razumeju zašto je mogućnost (a sve više i verovatnoća) ove realnosti, koji stav je logičniji u ovom scenariju? Asimetrija dve strane ovog argumenta sama od sebe zahteva da je prvi stav onaj istinit i da fundamentalno razumevanje potražnje bitcoina samo još više ojačava to mišljenje. #### Niko ne moze zabraniti bitcoin Razmislite šta bitcoin u stvari predstavlja pa onda šta bi predstavljala njegova zabrana. Bitcoin je konverzija subjektivne vrednosti, stvorena i razmenjena u realnošću, u digitalne potpise. Jednostavno rečeno, to je konverzija ljudskog vremena u novac. Kad neko zahteva bitcoin, oni u isto vreme ne zahtevaju neki drugi posed, nek to bio dolar, kuća, auto ili hrana itd. Bitcoin predstavlja novčanu štednju koja sa sobom žrtvuje druge imovine i servise. Zabrana bitcoina bi bio napad na najosnovnije ljudske slobode koje je on upravo stvoren da brani. Zamislite reakciju svih onih koji su prihvatili bitcoin: „Bilo je zabavno, alatka za koju su svi eksperti tvrdili da neće nikad funkcionisati, sada toliko dobro radi i sad ti isti eksperti i autoriteti kažu da mi to nemožemo koristiti. Svi idite kući, predstava je gotova.“verovanje da će svi ljudi koji su učestvovali u bitcoin usvajanju, suverenitetu koji nudi i finansiskoj slobodi, odjednom samo da se predaju osnovnom rušenju njihovih prava je potpuno iracionalna pozicija. > Novac je jedan od najbitnijih instrumenata za slobodu koji je ikad izmišljen. Novac je to što u postojećem društvu ostvaruje mogućnosti siromašnom čoveku – čiji je domet veći nego onaj koji je bio dostižan bogatim ljudima pre ne toliko puno generacija.“ – F. A. Hajek Države nisu uspele da zabrane konzumiranje alkohola, droga, kupovinu vatrenog oružja, pa ni posedovanje zlata. Država može samo pomalo da uspori pristup ili da deklariše posedovanje ilegalnim, ali ne može da uništi nešto što veliki broj raznovrsnih ljudi smatra vrednim. Kada je SAD zabranila privatno posedovanje zlata 1933., zlato nije palo u vrednosti ili nestalo sa finansijskog tržišta. Ono je u stvari poraslo u vrednosti u poređenju sa dolarom, i samo trideset godina kasnije, zabrana je bila ukinuta. Ne samo da bitcoin nudi veću vrednosno obećanje od bilo kog drugog dobra koje su države pokušale da zabrane (uključujući i zlato); nego po svojim osobinama, njega je mnogo teže zabraniti. Bitcoin je globalan i decentralizovan. On ne poštuje granice i osiguran je mnoštvom nodova i kriptografskim potpisima. Sam postupak zabrane bi zahtevao da se u isto vreme zaustavi „open source“ softver koji emituje i izvršava slanje i potvrđivanje digitalno enkriptovanih ključeva i potpisa. Ta zabrana bi morala biti koordinisana između velikog broja zemalja, sa tim da je nemoguće znati gde se ti nodovi i softver nalazi ili da se zaustavi instaliranje novih nodova u drugim pravnim nadležnostima. Da ne pominjemo i ustavske pitanja, bilo bi tehnički neizvodljivo da se takva zabrana primeni na bilo kakav značajan način.  Čak kada bih sve zemlje iz G-20 grupe koordinisale takvu zabranu u isto vreme, to ne bi uništilo bitcoin. U stvari, to bi bilo samoubistvo za fiat novčani sistem. To bi još više prikazalo masama da je bitcoin u stvari novac koji treba shvatiti ozbiljno, i to bi samo od sebe započelo globalnu igru vatanje mačke za rep. Bitcoin nema centralnu tačku za napad; bitcoin rudari, nodovi i digitalni potpisi su rasejani po celom svetu. Svaki aspekt bitcoina je decentralizovan, zato su glavni stubovi njegove arhitekture da učesnici uvek treba kontrolisati svoje potpise i upravljati svojim nodom. Što više digitalnih potpisa i nodova koji postoje, to je više bitcoin decentralizovan, i to je više odbranjiva njegova mreža od strane neprijatelja. Što je više zemalja gde rudari izvršavaju svoj posao, to je manji rizik da jedan nadležni identitet može uticati na njegov bezbednosni sistem. Koordinisan internacionalni napad na bitcoin bi samo koristio da bitcoin još više ojača svoj imuni sistem. Na kraju krajeva, to bi ubrzalo seobu iz tradicionalnog finansijskog sistema (i njegovih valuta) a i inovaciju koja postoji u bitcoin ekosistemu. Sa svakom bivšom pretnjom, bitcoin je maštovito pronalazio način da ih neutrališe pa i koordinisan napad od strane država ne bi bio ništa drugačiji.  Inovacija u ovoj oblasti koja se odlikuje svojom „permissionless“ (bez dozvole centralnih identiteta) osobinom, omogućava odbranu od svakojakih napada. Sve varijante napada koje su bile predvidjene je upravo to što zahteva konstantnu inovaciju bitcoina. To je ona Adam Smitova nevidljiva ruka, ali dopingovana. Pojedinačni učesnici mogu da veruju da su motivisani nekim većim uzrokom, ali u stvari, korisnost kaja je ugrađena u bitcoin stvara kod učesnika dovoljno snažan podsticaj da omogući svoje preživljavanje. Sopstveni interes milione, ako ne milijarde, nekoordinisanih ljudi koji se jedino slažu u svojom međusobnom potrebom za funkcionalnim novcem podstiče inovacije u bitcoinu. Danas, možda to izgleda kao neka kul nova tehnologija ili neki dobar investment u finansijskom portfoliju, ali čak i ako to mnogi ne razumeju, bitcoin je apsolutna nužnost u svetu. To je tako zato što je novac nužnost a historijski priznate valute se fundamentalno raspadaju. Pre dva meseca, tržište američkih državnih obveznica je doživeo kolaps na šta je Federal Reserve reagovao time što je povećao celokupnu količinu dolara u postojanju za $250 milijardi, a još više u bliskoj budućnosti. Tačno ovo je razlog zašto je bitcoin nužnost a ne samo luksuzni dodatak. Kada inovacija omogućava bazično funkcionisanje ekonomije ne postoji ni jedna država na svetu koja može da zaustavi njenu adopciju i rast. Novac je nužnost a bitcoin znatno poboljšava sistem novca koji je ikada postojao pre njega. Sa više praktične strane, pokušaj zabranjivanja bitcoina ili njegove velike regulacije od nadležnosti bi direktno bilo u korist susedne nadležnih organa. Podsticaj da se odustane od koordinisanog napada na bitcoin bi bio isuviše veliki da bi takvi dogovori bili uspešni. Kada bi SAD deklarisovale posed bitcoina ilegalnim sutra, da li bi to zaustavilo njegov rast, razvoj i adopciji i da li bi to smanjilo vrednost celokupne mreže? Verovatno. Da li bi to uništilo bitcoin? Ne bi. Bitcoin predstavlja najpokretljivije kapitalno sredstvo na svetu. Zemlje i nadležne strukture koje kreiraju regulativnu strukturu koja najmanje ustručava korišćenje bitcoina će biti dobitnici velike količine uliva kapitala u svoje države. #### Zabrana Bitcoinove Zatvoreničke Dileme  U praksi, zatvorenička dilema nije igra jedan na jedan. Ona je multidimenzijska i uključuje mnoštvo nadležnosti, čiji se interesi nadmeću međusobno, i to uskraćuje mogućnosti bilo kakve mogućnosti zabrane. Ljudski kapital, fizički kapital i novčani kapital će sav ići u pravcu država i nadležnosti koje najmanje ustručuju bitcoin. To se možda neće desiti sve odjednom, ali pokušaji zabrane su isto za badava koliko bi bilo odseći sebi nos u inat svom licu. To ne znači da države to neće pokušati. India je već probala da zabrani bitcoin. Kina je uvela puno restrikcija. Drugi će da prate njihove tragove. Ali svaki put kada država preduzme takve korake, to ima nepredvidljive efekte povećanja bitcoin adopcije. Pokušaji zabranjivanja bitcoina su jako efektivne marketing kampanje. Bitcoin postoji kao sistem nevezan za jednu suverenu državu i kao novac je otporan na cenzuru. On je dizajniran da postoji van državne kontrole. Pokušaji da se taj koncept zabrani samo još više daje njemu razlog i logiku za postojanje. #### Jedini Pobednički Potez je da se Uključiš u Igru Zabrana bitcoina je trošenje vremena. Neki će to pokušati; ali svi će biti neuspešni. Sami ti pokušaji će još više ubrzati njegovu adopciju i širenje. Biće to vetar od 100 km/h koji raspaljuje vatru. To će ojačati bitcoin sve više i doprineće njegovoj pouzdanosti. U svakom slučaju, verovanje da će države zabraniti bitcoin u momentu kada on postane dovoljno velika pretnja rezervnim valutam sveta, je iracionalan razlog da se on no poseduje kao instrument štednje novca. To ne samo da podrazumeva da je bitcoin novac, ali u isto vreme i ignoriše glavne razloge zašto je to tako: on je decentralizovan i otporan na cenzure. Zamislite da razumete jednu od nojvećih tajni današnjice i da u isto vreme tu tajnu asimetrije koju bitcoin nudi ne primenjujete u svoju korist zbog straha od države. Pre će biti, neko ko razume zašto bitcoin funkcioniše i da ga država ne može zaustaviti, ili nepuno znanje postoji u razumevanju kako bitcoin uopšte funckioniše. Počnite sa razmatranjem fundamentalnih pitanja, a onda primenite to kao temelj da bi procenili bilo koji potencijalan rizik od strane budućih regulacija ili restrikcija državnih organa. I nikad nemojte da zaboravite na vrednost asimetrije između dve strane ovde prezentiranih argumenata. Jedini pobednički potez je da se uključite u igru. Stavovi ovde prezentirani su samo moji i ne predstavljaju Unchained Capital ili moje kolege. Zahvaljujem se Fil Gajgeru za razmatranje teksta i primedbe. [Originalni tekst](https://unchained.com/blog/bitcoin-cannot-be-banned/)